โคราชสั่งห้ามลอยอังคารในลำน้ำมูล ชาวบ้านร้องกระทบจิตใจ

โคราชสั่งห้ามลอยอังคารในลำน้ำมูล ชาวบ้านร้องกระทบจิตใจ

โคราชสั่งห้ามลอยอังคาร เถ้ากระดูกคนตายในลำน้ำมูล หลังชาวบ้าน 7 หมู่บ้าน ร้องกระทบต่อสภาพจิตใจ และอาจจะเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค อีกทั้งมีการนำเอาเครื่องใช้ ที่นอน หมอน ของใช้ผู้ตาย มาทิ้งที่ท่าน้ำลำน้ำมูลบริเวณสวนสาธารณประโยชน์ของหมู่บ้าน

ห้องประชุมศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมเพื่อหารือในการแก้ไขปัญหาและป้องกัน การนำกระดูกจากการเผาศพมาทิ้งลงในลำน้ำมูล บริเวณพื้นที่ตำบลท่าช้าง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา

 

หลังจากที่มีชาวบ้านในพื้นที่ เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ว่ามีการนำเถ้ากระดูกคนตายที่ฌาปนกิจแล้ว พร้อมด้วยพานธูปเทียน เครื่องใช้ ที่นอน หมอน ของใช้ผู้ตาย มาทิ้งที่ท่าน้ำลำน้ำมูลบริเวณสวนภูมิทัศน์ สวนสาธารณประโยชน์ บ้านหนองบัว หมู่ 11 ตำบลท่าช้าง เฉลี่ยวันละ 3-5 ราย ซึ่งทำให้ประชาชนที่อยู่บริเวณแม่น้ำมูลประมาณ 7 หมู่บ้านได้รับความเดือดร้อน กระทบต่อสภาพจิตใจ ภาพลักษณ์สิ่งแวดล้อม และอาจเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค

 

เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา จึงได้เรียกประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาดังหล่าว โดยมีนายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ เทศบาลตำบลท่าช้าง ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมในการประชุม

 

โคราชสั่งห้ามลอยอังคารในลำน้ำมูล ชาวบ้านร้องกระทบจิตใจ

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า เบื้องต้น ในที่ประชุมได้มีแนวทางในการปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหาดังนี้

1. ให้เทศบาลตำบลท่าช้าง ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการนำเถ้ากระดูกผู้ตายมาทิ้งในลำน้ำมูล ตามมาตรา 27 (เหตุรำคาญเกิดขึ้นในที่หรือทางสาธารณะ) มาตรา 28 (เหตุรำคาญเกิดขึ้นในสถานที่เอกชน) อันมีโทษจำคุก ไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสองหมื่นห้าพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 74 แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

2.ให้เทศบาลตำบลท่าช้าง จัดทำป้ายประชาสัมพันพันธ์ ห้ามนำเถ้ากระดูกผู้ตายมาทิ้งในลำน้ำมูล โดยสื่อให้เห็นถึงความเดือดร้อนของคนในพื้นที่

3.ให้ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด มีหนังสือถึงผู้ประกอบกิจการฯ ให้ทราบถึงมูลเหตุแห่งการกระทำความผิดตามกฎหมาย

4.ให้ อ.เฉลิมพระเกียรติ จัดชุดเฝ้าระวังการนำเถ้ากระดูกผู้ตายมาทิ้งในลำน้ำมูล

5.นำกรณีดังกล่าวแจ้งในที่ประชุมกรมการจังหวัดนครราชสีมา

6.ให้ทุกอำเภอแจ้งกรณีดังกล่าวในการประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อมิให้มีการนำเถ้ากระดูกผู้ตายมาทิ้งในลำน้ำมูล