พายุฤดูร้อนถล่ม! ปภ.เร่งช่วยเหลือ สถานการณ์วาตภัย 19 จังหวัด

พายุฤดูร้อนถล่ม! ปภ.เร่งช่วยเหลือ สถานการณ์วาตภัย 19 จังหวัด

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เผยยังคงมีสถานการณ์วาตภัย 19 จังหวัด เร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือ หลังพายุฤดูร้อนถล่ม เกิดฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง

เมื่อวันที่ 30 มี.ค.65 เวลา 10.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย รายงานสถานการณ์จากความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ประกอบกับประเทศไทยตอนบน มีอากาศร้อน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยเริ่มบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน

ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกในลำดับต่อไป ซึ่งทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ในห้วงวันที่ 27 - 30 มี.ค. 65 มีสถานการณ์ในพื้นที่ 19 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พิษณุโลก พะเยา กำแพงเพชร ลำปาง มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ นครราชสีมา ยโสธร บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ นครพนม หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ ชัยนาท กาญจนบุรี และสุราษฎร์ธานี รวม 48 อำเภอ 126 ตำบล 477 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 1,661 หลัง ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต แยกเป็น

พายุฤดูร้อนถล่ม! ปภ.เร่งช่วยเหลือ สถานการณ์วาตภัย 19 จังหวัด

ภาคเหนือ 5 จังหวัด รวม 22 อำเภอ 62 ตำบล 170 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 488 หลัง ดังนี้

1. เชียงราย เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอพาน รวม 10 ตำบล 26 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 25 หลัง

2. พิษณุโลก เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนครไทย และอำเภอวังทอง รวม 3 ตำบล 8 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 15 หลัง

3. พะเยา เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอภูชาง อำเภอจุน และอำเภอเมืองพะเยา รวม 7 ตำบล 23 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 94 หลัง

4. กำแพงเพชร เกิดวาตภัยในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอขาณุวรลักษณบุรี  อำเภอโกสัมพีนคร อำเภอทรายทองวัฒนา อำเภอไทรงาม อำเภอปางศิลาทอง อำเภอเมืองกำแพงเพชร อำเภอพรานกระต่าย อำเภอคลองขลุง อำเภอบึงสามัคคี และอำเภอลานกระบือ รวม 30 ตำบล 87 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 218 หลัง

5. ลำปาง เกิดวาตภัยในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเถิน  อำเภอเสริมงาม อำเภอเมืองลำปาง อำเภอแจ้ห่ม  อำเภอเมืองปาน และอำเภอวังเหนือ รวม 12 ตำบล 26 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 136 หลัง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 11 จังหวัด รวม 21 อำเภอ 33 ตำบล 97 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 746 หลัง ดังนี้

6. มุกดาหาร เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอนิคมคำสร้อย รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 5 หลัง

7. ร้อยเอ็ด เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอสุวรรณภูมิ รวม 2 ตำบล 5 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 136 หลัง

8. ชัยภูมิ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอบำเหน็จณรงค์ รวม 4 ตำบล 31 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 148 หลัง

9. นครราชสีมา เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอจักราช และอำเภอห้วยแถลง รวม 5 ตำบล 6 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 58 หลัง

10. ยโสธร เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเลิงนกทา และอำเภอกุดชุม รวม 2 ตำบล 3 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 5 หลัง

11. บุรีรัมย์ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอพลับพลาชัย รวม 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 11 หลัง

12. สุรินทร์ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบัวเชด อำเภอเขวาสินรินทร์ และอำเภอท่าตูม รวม 5 ตำบล 15 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 195 หลัง

13. ศรีสะเกษ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพยุห์ อำเภอน้ำเกลี้ยง อำเภอวังหิน อำเภอยางชุมน้อย อำเภอเมืองจันทร์ และอำเภอไพรบึง รวม 6 ตำบล 19 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 143 หลัง

14. นครพนม เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอเมืองนครพนม รวม 1 ตำบล 3 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 12 หลัง

15. หนองบัวลำภู เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอเมืองหนองบัวลำภู รวม 3 ตำบล 9 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 22 หลัง

16. อำนาจเจริญ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอเสนางคนิคม รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 11 หลัง

 

ภาคกลาง 2 จังหวัด รวม 4 อำเภอ 30 ตำบล 206 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 398 หลัง ดังนี้

17.ชัยนาท เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอหันคา รวม 2 ตำบล 5 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 8 หลัง

18. กาญจนบุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 ได้แก่ อำเภอพนมทวน อำเภอท่ามะกา และอำเภอท่าม่วง รวม 28 ตำบล 201 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 390 หลัง

 

ภาคใต้ 1 จังหวัด รวม 1 อำเภอ 1 ตำบล 4 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 29 หลัง

19. สุราษฎร์ธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี 1 ตำบล 4 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 29 หลัง

ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว