ชาวสวนดีใจ ราคายางพุ่ง กก.ละกว่า 60 บาท

ชาวสวนดีใจ ราคายางพุ่ง กก.ละกว่า 60 บาท

ชาวสวนดีใจราคายางพุ่งกก.ละกว่า 60 บาท แต่อยู่ในช่วงปิดกรีด น้ำยางออกสู่ตลาดน้อย และภาวะราคาน้ำมันแพง โดยคนที่กรีดส่วนใหญ่เป็นเจ้าของแปลงยางอายุมาก แต่แปลงยางอายุน้อยจะปิดกรีดสิ้นเชิง จึงทำให้ชาวสวนไม่ได้ประโยชน์ราคายางที่พุ่งสูงขึ้นมากนัก

เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวสวนยางพาราในพื้นที่ ต.หนองช้างแล่น อ.ห้วยยอด จ.ตรัง สุดดีใจราคายางพาราพุ่งสูงขึ้นกิโลกรัมละ 63 – 68 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงมากที่สุดในรอบ 2 ปี แต่การปรับราคาขึ้นในช่วงนี้ เป็นช่วงที่ชาวสวนยางอยู่ในช่วงฤดูปิดกรีด ทำให้ปริมาณน้ำยางสดออกสู่ตลาดน้อยมาก ชาวสวนยางจึงแทบไม่ได้ประโยชน์จากราคายางพาราที่ปรับสูงขึ้นดังกล่าว โดยสาเหตุเกิดจากภาวะราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น เพราะราคายางพาราจะผันผวนตามราคาน้ำมัน นอกเหนือจากกลุ่มทุนรวมหัวกันทุบราคา และปริมาณน้ำยางสดออกสู่ตลาดน้อยมาก แต่ความต้องการใช้ยางมีปริมาณมาก โดยชาวสวนยางที่ยังคงเปิดกรีดอยู่นั้น คือ ชาวสวนยางที่แปลงยางอายุมาก จึงไม่ได้กังวลเรื่องหน้ายางเสียหาย

แต่สวนยางพาราที่เพิ่งเปิดกรีดหรืออายุต้นยางพารายังน้อย เจ้าของจะหยุดกรีดสิ้นเชิง หวั่นหน้ายางพังเสียหาย ทั้งนี้ แม้สวนยางพาราจะอายุมาก แต่เจ้าของก็จะใช้วิธีการกรีดแบบกรีดๆหยุดๆในช่วงฤดูปิดกรีดนี้ เช่น กรีด 2 วัน หยุด 1 วัน สลับกันไป เพื่อให้มีรายได้ในช่วงยางพารามีราคาสูง และภาระค่าครองชีพแพง เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในครอบครัว แต่ในช่วงนี้ในพื้นที่ภาคใต้เกิดฝนตกหนักเป็นระยะๆ ทำให้ชาวสวนยางกรีดยางไม่ได้เช่นเดียวกัน

แต่อย่างไรก็ตาม จากสภาวะอากาศที่ดี เกิดฝนตกบ่อยครั้งในพื้นที่ภาคใต้ จะเป็นผลดีต่อเกษตรกรชาวสวนยาง จะทำให้เกษตรกรชาวสวนยางที่เหลือเปิดกรีดยางพารารอบใหม่ได้เร็วขึ้นกว่ากำหนด เนื่องจากเกิดฝนตกชุกในพื้นที่ จากเดิมจะเปิดกรีดในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเข้าสู่ช่วงฤดูฝน