"วัคซีนโควิด-19" เข็ม 3 เข็ม 4 ให้ผลดีมากกว่าผลเสีย?
ประเด็น "วัคซีนโควิด-19" ที่หลายคนเริ่มจะตั้งคำถาม โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นเข็ม 3 เข็ม 4 ว่ายังจำเป็นอยู่หรือไม่ อาจเสี่ยงเจอผลเสีย ปล่อยให้ติดเชื้อโควิด-19 ตามธรรมชาติดีกว่า นั้น
ประเด็น "วัคซีนโควิด-19" ที่หลายคนเริ่มจะตั้งคำถาม เนื่องจากสถานการณ์การติดเชื้อต่อวันนั้น แม้ว่าจะยังคงสูงขึ้นหลักหมื่นคนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งอัตราการเสียชีวิตที่เฉียดวันละเกือบๆ 100 คนในทุกวัน อย่างไรก็ตามผู้ติดเชื้อโควิด-19 ส่วนใหญ่จะมีอาการน้อยหรือไม่มีอาการ ส่งผลให้หลายคนนั้นลังเลที่จะไป "ฉีดวัคซีนเข็ม 3" กระตุ้น แม้แต่การ "ฉีดวัคซีนเข็ม 4" เนื่องจากกลัวว่าจะได้รับผลข้างเคียงจากวัคซีนนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "สงกรานต์ 2565" ศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อปิดให้บริการฉีดวัคซีน 11 วัน เช็กให้ดี
- Walk in - ลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด แอสตร้า-ไฟเซอร์ ฟรีทุกเข็ม ตลอดเดือนเมษายน
- ยังไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์! ภูมิฯ "วัคซีนโควิด-19" เข้าข้างไวรัส
เรื่องนี้ นพ.อุดม คชินทร ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ ที่ได้ตอบคำถามประเด็น "วัคซีนโควิด-19" เข็ม 3 และเข็ม 4 ซึ่งมีการระบุว่า โดยรวมแล้วนั้น ผลดีของ "วัคซีนโควิด" มีมากกว่าผลเสียอยู่มาก
ประเด็น "วัคซีนโควิด-19" กับคำถามที่ว่า จริงหรือไม่? อย่าไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น อาจเสี่ยงเจอผลเสีย ปล่อยให้ติดเชื้อโควิด-19 ตามธรรมชาติดีกว่า เพราะส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ไม่มีอาการหรืออาการน้อย
ซึ่งเรื่องนี้ นพ.อุดม คชินทร ได้ตอบคำถามว่า ไม่ใช่ความคิดที่ถูกต้องทั้งหมด ทุกอย่างมีทั้งผลดีและผลเสียแต่โดยรวมผลดีของวัคซีนมีมากกว่าผลเสียมาก
เราบอกไม่ได้ว่าใครจะแจ็คพอตไปอยู่ในกลุ่มน้อยที่เจอผลเสีย เช่น หลังฉีดวัคซีนเกิด Stroke ในผู้ใหญ่ หรือ เกิดอักเสบของอวัยวะหลายระบบในเด็ก หรือ เสียชีวิตหลังฉีด
โปรดอย่ามองเป็นจุด ๆ ต้องมองภาพรวม ถ้าปล่อยให้ติดเชื้อโควิด-19 แล้วโชคไม่ดีเป็นแบบรุนแรงและเสียชีวิต (พบ 2,500 ต่อ 1 ล้านผู้ติดเชื้อ) ซึ่งโอกาสเกิดผลเสียจากติดเชื้อโควิด-19 มากกว่าผลเสียจากวัคซีนเป็นร้อยเท่า (พบเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน 10-20 ต่อ 1 ล้านโดส)
ขอให้ดูคำชี้แจงของ 5 องค์กรวิชาชีพด้านแพทย์ (ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย สมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย สมาคมเวชบำบัดวิกฤตแห่งประเทศไทย และสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์) รวมทั้งขององค์การอนามัยโลกและขององค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา ซึ่งทั้งหมดสนับสนุนให้ฉีดเข็มกระตุ้นเข็ม 3 และ 4