ค่า PM2.5 อุดรฯ เริ่มพุ่งต่อเนื่อง เกินมาตรฐานเป็นวันแรก
ค่า PM2.5 อุดรฯ เริ่มพุ่งต่อเนื่อง และเกินมาตรฐานเป็นวันแรก ปภ.อุดรฯ เผยฝุ่นไม่ได้เกิดจากการเผาอ้อย เพราะช่วงนี้โรงงานอ้อยปิดหีบแล้ว คาดมาจากการใช้รถในช่วงสงกรานต์
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่11เมษายน2565สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ กรมควบคุมมลพิษ ตั้งอยู่ริมหนองประจักษ์ศิลปาคม ด้านถนนเพาะนิยม เทศบาลนครอุดรธานี รายงานคุณภาพอากาศแบบเรียวไทม์ ตรวจสอบได้จากเวปไซต์ “แอร์4ไทย” พบว่าบ่ายวันนี้ค่ามลพิษวัดได้202 AQIและค่าคุณภาพอากาศPM 2.5วัดได้92ขยับเข้าสูงสถานการณ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ หลังจากช่วงเช้าที่ผ่านมา ค่ามลพิษวัดได้185 AQIหรือเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพเท่านั้น
เมื่อตรวจสอบย้อนหลังพบว่า ค่ามลพิษของอุดรธานีสูงขึ้นเร็วมาก จากต้นเดือนเมษายนอยู่ในระดับ “สีฟ้า” หรือดีมาก เพราะช่วงนั้นมีพายุฝนติดต่อกันหลายวัน จากนั้นเริ่มมีการสะสมของฝุ่นละออง และหมอกควันเพิ่มมากขึ้น จากลมมีกำลังอ่อนและไม่มีฝนตก ทำให้วันที่5เมษายน ก็เริ่มขยับสูงขึ้นเป็น29 AQI (เขียว), 33 AQI (เขียว), 55 (เหลือง), 147 AQI (ส้ม), 124 AQI (ส้ม), 159 AQI (ส้ม) และวันนี้สูงสุด202 AQI (แดง) เมื่อครบ24ชม. จะมีการคำนวณค่าเฉลี่ยอีกครั้ง
นายธีระภัทร์ ผิวสวัสดิ์ ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า อุดรธานีได้กำหนดแผนรณรงค์ รับมือคุณภาพอากาศตั้งแต่ต้นปี ตั้งแต่ลดการเผาอ้อยส่งโรงงาน,รณรงค์ไถกลบตอซัง ไม่เผาวัสดุเหลือใช้จากการเกษตร,การตรวจจับควันดำ,การป้องกันไฟป่า (ชิงเผาชิงเก็บ),ลดเหตุไฟไหม้ริมทางรวมทั้งกวดขันโรงงานอุตสาหกรรม และฝุ่นที่เกิดจากการก่อสร้าง ทำให้ปีนี้สถานการณ์ก่อนหน้านี้ไม่รุนแรง พอเริ่มค่าคุณภาพอากาศสูงขึ้น ในช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก็มีผลตกลงมาต่อเนื่องค่าตรวจวัดก็ลดลง
“วันนี้เราไม่มีการเผาอ้อย เพราะโรงงานน้ำตาลปิดหีบหมดแล้ว ตรวจพบจุดความร้อนที่เกิดจากไฟป่า และการเผาพื้นที่เกษตรกรรมน้อยมาก บางวันพบเพียง2-3จุด และสูงสุดเกินวันละ10จุดเพียงไม่กี่ครั้ง ค่าคุณภาพอากาศที่สูงขึ้น เกิดบริเวณจุดอับลมอาการนิ่ง ไม่มีลมพัดเปลี่ยนลมมา เกิดการสะสมของPM 2.5เรายังไม่ประกาศเตือนภัย โดยคิดว่าสถิติของอุดรธานี น่าจะต่ำกว่าที่รายงาน จากที่สถานีฯตั้งอยู่ริมถนน รถวิ่งไปมาฝุ่นและไอเสียรถ น่าจะเป็นสาเหตุให้สูงขึ้น และช่วงสงกรานต์อาจะมีฝนตก หากไม่ตกคงต้องใช้ล้างถนน กำจัดฝนออกจากถนนไม่ให้ลอยขึ้น ”
นายสายัณห์ หมีแก้ว ผอ.ส่วนควบคุมมลพิษ สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค9จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า สภาพอากาศลักษณะนี้ เกิดขึ้นในทุกพื้นที่ บริเวณจุดเป็นพื้นที่อับลม ฝุ่นก็จะสะสมเพิ่มขึ้น อย่างเช่น จ.หนองคาย ที่มีสถิติสูงมากต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามสภาพของPM 2.5ทุกปีในเดือนเมษายน จะลดลงและน่าจะหมดไปแล้ว แต่ปีนี้กลับยังคงอยู่ หากมีลมหรือฝนมาช่วย สถานการณ์ก็จะดีขึ้น เหมือนช่วงปลายมีนาคม มาจนถึงต้นเดือนเมษายนมีที่ผ่านมา