จับสาวเปิดบัญชีม้า ร่วมแก๊งตุ๋นเงินเหยื่อ อ้างรับโชคเกมส์พันล้าน
ตำรวจรวบสาวเปิดบัญชีม้า ร่วมแก๊งสิบแปดมงกุฎ ตุ๋นเงินเหยื่อ อ้างรับโชคโบนัสเกมส์พันล้าน เงินถูกส่งมาถึงไทย แต่ติดปัญหาไม่มีเอกสาร หากรับพัสดุต้องจ่ายค่าดำเนินการ เหยื่อหลงเชื่อสูญเงินร่วมครึ่งแสน ตร.ตามจับได้คาคอนโด ย่านอุดมสุข เจ้าตัวรับสารภาพ
ตำรวจกองปราบปราม เข้าจับกุม น.ส.ยุพิณ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาเปิดบัญชีม้า ร่วมแก๊งสิบแปดมงกุฎ หลอกเงินเหยื่อ อ้างรับโชคโบนัสเกมส์พันล้านเหรียญ
โดยคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้เล่นเกมส์ Bounty pipe ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นในมือถือระบบ Android และมีการโฆษณาว่าหากเล่นชนะสามารถถอนเงินออกมาได้ โดยผู้เสียหายได้รับข้อความว่า “คุณเป็นผู้โชคดีได้รับโบนัสจากเกมส์ดังกล่าว”
ต่อมาคนร้ายติดต่อมาหาผู้เสียหายผ่านทางไลน์ อ้างว่าเป็นคนสัญชาติอังกฤษ ได้แจ้งผู้เสียหายว่า “ได้รับโบนัสจำนวน 1.1 พันล้านเหรียญดอลล่า หรือประมาณ 3 พันล้านบาท” จากนั้นได้ส่งภาพถ่ายเงินดอลล่า และตั๋วเครื่องบินส่งมาให้ผู้เสียหาย โดยอ้างว่าเงินดอลล่าดังกล่าว เป็นสิ่งที่ผู้เสียหายจะได้รับจึงหลงเชื่ออุบายดังกล่าว
จากนั้นคนร้ายซึ่งเป็นหญิงไทย โทรติดต่อมาหาผู้เสียหาย และอ้างว่าเป็นบริษัทขนส่งข้ามชาติ แจ้งว่าพัสดุได้มาถึงประเทศไทยแล้ว อยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ยังนำส่งไม่ได้จะต้องจ่ายภาษีศุลกากร จำนวนเงิน 15,000 บาท ต่อมาผู้เสียหายจึงได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวให้กับคนร้าย และได้สอบถามไปว่าจะได้รับพัสดุเมื่อใด
แต่คนร้ายกลับได้คำตอบว่าพัสดุมีปัญหา ได้มีธนบัตรต่างชาติซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องต้องเสียค่าปรับเพิ่ม ไม่มีเอกสารสำแดงที่มาที่ไป จึงต้องให้สรรพากรออกใบกำกับภาษีให้ โดยมีค่าใช้จ่ายในการออกเอกสาร ผู้เสียหายโอนเงินไปให้กับคนร้าย จำนวนทั้งสิ้น 3 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 50,000 บาท หลังจากโอนไปแต่กลับไม่ได้รับพัสดุดังกล่าว จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก และได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อ กับพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสาคร ไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมา ตำรวจ กก.1 บก.ป.สืบทราบว่าคนร้ายพักอาศัยอยู่คอนโด ย่านอุดมสุข จึงนำกำลังมาตรวจสอบ จนสามารถจับกุมตัวได้ที่ บริเวณทางเดินภายในคอนโด ถนนอุดมสุข แขวงและเขตบางนา กรุงเทพฯ จากการสอบสวนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
นอกจากนี้ตรวจสอบประวัติพบว่ามีหมายจับของศาลจังหวัดหนองคาย ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงแสดงตนเป็นผู้อื่น” และหมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลก ในข้อหา“ร่วมกันฉ้อโกงผู้อื่น โดยแสดงตัวเป็นผู้อื่น” เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์” ก่อนนำตัวผู้ต้องหารายนี้ส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส และอาจะยัดตัวตามตามหมายจับดังกล่าวต่อไป