กรมทางหลวง ชวนล่องใต้คลายร้อน สัมผัส 11 เส้นทางสายธรรมชาติระหว่างเดินทาง
กรมทางหลวง ชวนล่องใต้คลายร้อนสัมผัสเส้นทางสายธรรมชาติระหว่างเดินทาง สู่แหล่งท่องเที่ยวพื้นที่อ่าวไทย-อันดามันหนุนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทย สร้างรายได้ให้ประชาชน
กรมทางหลวง (ทล.) กระทรวงคมนาคม ขานรับนโยบายของรัฐบาลและ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพื่อให้ฟื้นจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ในช่วงฤดูร้อนและช่วงเทศกาลวัน "สงกรานต์ 2565" ทล. ขอเชิญชวนนักเดินทางท่องเที่ยวแบบวิถีใหม่ (new normal) เน้นการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยสัมผัสเส้นทางสายธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์จากต้นไม้ระหว่างเดินทางสู่แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน ซึ่งมีทิวทัศน์สวยงามหลายเส้นทางด้วยกัน คือ
1. ทางหลวงหมายเลข 4 (ตอนหนองบ้วย - ห้วยทรายใต้) ที่ กม.187+680 ซึ่งแขวงทางหลวงเพชรบุรีได้ปรับปรุงภูมิทัศน์สองข้างทางให้สดชื่นสบายตาด้วยพันธ์ไม้สวยงามระหว่างเดินทางไปสัมผัสน้ำทะเลกลิ่นอายทะเลที่ชะอำและหัวหิน
2. ทางหลวงหมายเลข 3510 (ตอนหนองหญ้าปล้อง - ยางชุม) อยู่ในพื้นที่แขวงทางหลวงเพชรบุรี ซึ่งเป็นเส้นทางที่เดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวแก่งกระจานโดยไม่ต้องผ่านเข้าตัวเมืองเพชรบุรี ผ่านเข้าสู่อำเภอหนองหญ้าปล้องซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลากหลายตลอดเส้นทาง เช่น น้ำตกกวางโจว อุทยานเจ้าแม่กวนอิมพันมือ โดยการเดินทางจากอำเภอหนองหญ้าปล้องไปยังอำเภอแก่งกระจานระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
3. ทางหลวงหมายเลข 4 ซึ่งอยู่ในพื้นที่แขวงทางหลวงระนอง โดยเส้นทางนี้จะพาไปสัมผัสความสดชื่นของน้ำตกปุญญบาลหรือที่เที่ยวสามฤดูแห่งเมืองใต้ ที่ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกข้างทางที่สวยงามที่สุดของเมืองไทยเพราะตั้งอยู่ริมทางหลวง 4 (ตอนกระบุรี - หงาว) ที่ กม. 583+443 และเดินทางไปอีกประมาณ 26 กิโลเมตร จะได้สัมผัสกับกลิ่นอายของธรรมชาติ เติมอากาศบริสุทธิ์ให้กับร่างกายกับภูเขาหญ้าและอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว (ตอนกระบุรี - หงาว) ที่ กม.609+850 ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดระนอง
4. ทางหลวงหมายเลข 4169 (สายทางรอบเกาะสมุย) ซึ่งเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ อยู่ในพื้นที่แขวงทางหลวงสุราษฎร์ธานีที่ 2 ซึ่งสำนักก่อสร้างทางที่ 1 ทล. ได้ดำเนินการก่อสร้าง และพร้อมอำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับนักเดินทางที่ได้มาสัมผัสเกลียวคลื่น ผืนทราย น้ำทะเลใส ไอแดดอุ่น หาดทรายขาวทอดขนานไปกับทิวต้นมะพร้าวริมชายหาด และยังเชื่อมโยงไปยังเกาะพะงันเกาะที่ได้รับขนานนามว่า เพชรน้ำงามกลางทะเลอ่าวไทย และเกาะเต่าเกาะที่มีท้องทะเลสวยงามแห่งอ่าวไทย
5. ทางหลวงหมายเลข 401 (ตอนแยกโคกเคียน - เขาสก) อยู่ในพื้นที่แขวงทางหลวงพังงา ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะเดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์สึนามิบ้านน้ำเค็ม พิพิธภัณฑ์สึนามิระหว่างประเทศ อนุสรณ์สถานสึนามิ เรือ ต.813 ซึ่งแหล่งเรียนรู้ด้านภัยพิบัติทางทะเลและแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และหากเดินทางจากอำเภอตะกั่วป่าไปประมาณ 22 กิโลเมตร สามารถเดินทางต่อไปยังจุดเช็คอินสะพานเหล็กบุญสูงจุ ณ ร่องรอยแห่งอดีตของตะกั่วป่า
6. ทางหลวงหมายเลข 4030 (ตอนถลาง - หาดราไวย์) อยู่ในพื้นที่แขวงทางหลวงภูเก็ต โดยเส้นทางนี้ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 19 กิโลเมตร ผ่านทางหลวงหมายเลข 4024 จนถึงหน้าหาดราไวย์แล้วเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4030 จะถึงแหลมพรหมเทพซึ่งเป็นหนึ่งในจุดชมอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดอีกแห่งในเมืองไทย ห่างจากแหลมพรหมเทพเพียง 1.3 กิโลเมตร จะเป็นจุดชมวิวกังหันลม โดยมีหาดยะนุ้ยอยู่ระหว่างกลางซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดที่ได้ชมทั้งวิวกังหันลมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามไม่แพ้กับแหลมพรหมเทพมองเห็นวิวรอบด้านได้อย่างชัดเจน
7. ทางหลวงหมายเลข 401 (ตอนเขาหัวช้าง - สิชล) อยู่ในพื้นที่แขวงทางหลวงนครศรีธรรมราชที่ 1 เส้นทางสายนี้สามารถเดินทางต่อไปยังหาดในเพลา ชายหาดมีความโค้งยาว มีภูเขาล้อมรอบ ทิวทัศน์โดยรอบเป็นธรรมชาติที่สวยงามมาก
8. ทางหลวงหมายเลข 4015 (ตอนเขาธง - ฉวาง) อยู่ในพื้นที่หมวดทางหลวงช้างกลาง แขวงทางหลวงนครศรีธรรมราชที่ 2 (ทุ่งสง) เส้นทางสายนี้เป็นเส้นทางสายหลักสำหรับผู้ที่จะเดินทางไปสักการะสรีระสังขารพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ ณ วัดธาตุน้อย ซึ่งเป็นเส้นทางที่ต่อเนื่องมาจากทางหลวงหมายเลข 4015 ตอนบ้านตาล - เขาธง พื้นที่ของหมวดทางหลวงลานสกา แขวงทางหลวงนครศรีธรรมราชที่ 1
โดยตลอดสองข้างทางมีแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช อาทิเช่น หมู่บ้านคีรีวง หมู่บ้านที่อากาศดีที่สุดอีกแห่งหนึ่งในเมืองไทย และจุดเช็คอินเขาช้างสีแหล่งท่องเที่ยวในอำเภอลานสกาแลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัดนครศรีธรรมราช จุดชมวิวเขาเหมน จุดชมวิวเขาธง อุทยานแห่งชาติน้ำตกท่าแพ ถ้ำแก้วสุรกานต์ น้ำตกกะโรม บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ณ ศาลาพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ (เขาธง) และ อีกทั้งยังเป็นเส้นทางหลักไปยังแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของอำเภอพิปูนและอำเภอฉวาง โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองนครศรีธรรมประมาณ 35 กิโลเมตร
9. ทางหลวงหมายเลข 4047 (ตอนลำปำ - พัทลุง) อยู่ในพื้นที่แขวงทางหลวงพัทลุง โดยเส้นทางนี้สามารถเดินทางไปสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ที่หาดแสนสุขลำปำหรือหาดลำปำซึ่งเป็นหาดทรายที่มีทิวสนร่มรื่นริมฝั่งทะเลสาบสงขลา
10. ทางหลวงหมายเลข 408 (ตอนปากระวะ - สทิงพระ) อยู่ในพื้นที่แขวงทางหลวงสงขลาที่ 1 ซึ่งเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวอุทยานนกน้ำคูขุดหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลสาบสงขลาซึ่งมีบรรยากาศที่ดีเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจและอีกด้านเป็นภูเขาเล็กๆ เหมาะแก่การนั่งดูนกริมทะเละ และเดินทางออกไปอีกประมาณ 46 กิโลเมตร จะเชื่อมต่อกับทะเลน้อย จังหวัดพัทลุง
11. ทางหลวงหมายเลข 4115 (ตอนสุคิริน - กรือซอ) อยู่ในพื้นที่แขวงทางหลวงนราธิวาส โดยเส้นทางสายนี้สามารถเดินทางไปยังพระตำหนักสุคิริน พร้อมสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ที่ผานับดาวมองเห็นอำเภอสุคิรินและเทือกเขาบูโบได้อย่างชัดเจน พร้อมชวนชมดวงดาวบนท้องฟ้าและทางช้างเผือกในเวลากลางคืน
ทั้งนี้ ทล. ได้จัดตั้งจุดให้บริการทั่วไทย 423 แห่ง แบ่งเป็นจุดให้บริการทั่วไทย โดยแขวงทางหลวง/กองทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ รวม 147 แห่ง จุดให้บริการตำรวจทางหลวง จำนวน 201 แห่ง และจุดให้บริการสถานีตรวจสอบน้ำหนักและพักรถบรรทุก จำนวน 75 แห่ง ซึ่งภายในจุดบริการทั่วไทยจะมีเจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการประชาชนผู้ใช้ทางตลอด 24 ชั่วโมง ดังนี้ การให้ข้อมูลเส้นทาง แนะนำเส้นทางเลือก บริการน้ำดื่ม รวมทั้ง แอลกอฮอล์เจลล้างมือ หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด พร้อมทั้งได้จัดเตรียมห้องน้ำสะอาดบริการประชาชน จำนวน 581 แห่ง ในพื้นที่หมวดทางหลวงทั่วประเทศ
ทล. ขอความร่วมมือประชาชนจอดยานพาหนะบริเวณสองข้างทางอย่างระมัดระวังระหว่างทำการถ่ายภาพเพื่อป้องกันปัญหาการจราจรติดขัดและอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และปฏิบัติตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณะสุข “การท่องเที่ยววิถีใหม่” (New Normal) หากต้องการสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง