"โควิดวันนี้" ชลบุรีดับ 5 รายพบประวัติรับวัคซีน 3 เข็ม ยอดติดเชื้อรวม 3,710
"โควิดวันนี้" (15 เม.ย.2565) สถานการณ์ โควิด-19 จ.ชลบุรี มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 736 ราย ไม่รวม ATK อีก 2,974 ราย มีรายงานยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 5 ราย
"โควิดวันนี้" (15 เม.ย.2565) สถานการณ์ โควิด-19 จ.ชลบุรี มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 736 ราย ไม่รวม ATK อีก 2,974 ราย มีรายงานยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 5 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 198 ราย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ยอด โควิด-19 วันนี้ ติดเชื้อเพิ่ม 20,289 ราย ตาย 119 ราย ATK อีก 9,313 ราย
- โควิด-19 หลังสงกรานต์ 2565 ยอดติดเชื้อมีโอกาสเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
- "กรมอนามัย" แนะ "พระสงฆ์" แยกฉันภัตตาหาร ลดเสี่ยงโควิด-19
"โควิดวันนี้" 15 เมษายน 2565 จังหวัดชลบุรี มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 736 ราย ไม่รวม ATK อีก 2,974 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 5 ราย
1.คนที่พักอาศัยในจังหวัดระยอง เข้ามารักษาในจังหวัดชลบุรี 44 ราย สะสม 5,913 ราย และจังหวัดอื่นๆรวมสะสม 1,673 ราย
2.คลัสเตอร์ บริษัท เอสซีลอร์ ออพติคอล แลบอราทอรี (ประเทศไทย) จำกัด อ.พานทอง 4 ราย สะสม 28 ราย
3.อาชีพเสี่ยงพบปะผู้คนจำนวนมาก 25 ราย
4.บุคลากรทางการแพทย์ 17 ราย
5.ให้ประวัติเดินทางมาจากต่างจังหวัด 4 ราย ได้แก่ อุดรธานี 2 ราย , กทม. 1 ราย , มหาสารคาม 1 ราย
6.สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน
- ในครอบครัว 200 ราย
- จากสถานที่ทำงาน 59 ราย
- บุคคลใกล้ชิด 59 ราย
7.สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน (อยู่ระหว่างสอบสวนโรค) 4 ราย
8.อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 320 ราย
ณ วันที่ 15 เมษายน 2565 จังหวัดชลบุรี มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม 977,723 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 6,276 คน (อัตราป่วย 641.90 ต่อแสนประชากร) เสียชีวิต 5 ราย (0.51 ต่อแสนประชากร) ใส่ท่อหายใจ 5 ราย (0.51 ต่อแสนประชากร) ปอดอักเสบ 15 ราย (1.53 ต่อแสนประชากร)
มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม 1,914,803 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 4,662 คน (อัตราป่วย 243.47 ต่อแสนประชากร) เสียชีวิต 15 ราย (0.78 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 21 ราย (1.10 ต่อแสนประชากร), ปอดอักเสบ 21 ราย (1.10 ต่อแสนประชากร)
ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็ม 144,230 คน และไม่ได้ฉีดวัคซีนอีก 270,074 คน รวม 414,304 คน ในเดือนนี้พบผู้ติดเชื้อที่ฉีดวัคซีนไม่ครบและยังไม่ได้ฉีดวัคซีน 6,803 คน (อัตราป่วย 1642.03 ต่อแสนประชากร), เสียชีวิต 36 ราย (8.69 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 26 ราย (6.28 ต่อแสนประชากร) , ปอดอักเสบ 40 ราย (9.65 ต่อแสนประชากร)
วันนี้พบผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจรายใหม่ 6 ราย
- รายที่ 1 พบประวัติการรับวัคซีน 2 เข็มเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2565
- รายที่ 2 พบประวัติการรับวัคซีน 1 เข็มเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2564
- อีก 4 รายไม่พบประวัติการรับวัคซีน
ผู้ป่วยปอดอักเสบรายใหม่ 2 ราย
- รายที่ 1 พบประวัติการรับวัคซีน 2 เข็มเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2564
- รายที่ 2 พบประวัติการรับวัคซีน 2 เข็มเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2564
ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 5 ราย
- รายที่ 1 อายุ 79 ปี
- รายที่ 2 อายุ 84 ปี
- รายที่ 3 อายุ 71 ปี
- รายที่ 4 อายุ 67 ปี
- รายที่ 5 อายุ 61 ปี
สาเหตุที่นำไปสู่การเสียชีวิตคือ เป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัวได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ โรคหลอดเลือดสมอง
- รายที่ 1 พบประวัติการรับวัคซีน 3 เข็มเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2565
- รายที่ 2 พบประวัติการรับวัคซีน 2 เข็มเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2564
- รายที่ 3 พบประวัติการรับวัคซีน 2 เข็มเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2565
- อีก 2 รายไม่พบประวัติการรับวัคซีน
ดังนั้น การฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์กล่าวคือต้องได้รับการกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดเข็มที่ 3 จะช่วยลดความรุนแรงของโควิด-19 ผู้ที่อาศัยในจังหวัดชลบุรี ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือฉีดวัคซีนไม่ครบ มีโอกาสที่จะมีอาการรุนแรงมากกว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ ซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 และกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ จะมีอาการมากกว่ากลุ่มอื่น
ขณะนี้มีการระบาดเป็นวงกว้างทั้งจังหวัดชลบุรี ร้านอาหารจำหน่ายสแอลกอฮอล์ ต้องคัดกรองลูกค้าด้วย ATK ทุกคน ขณะนี้เริ่มมีการระบาดในสถานประกอบการจำนวนมาก พนักงานต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และเคร่งครัดในมาตรการองค์กร
1.เลิกงานไม่สังสรรค์
2.อาหารต้องไม่ทานใกล้ชิดด้วย
3.ป่วยต้องหยุด
4.จุดสัมผัสร่วม ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ เช่น ลูกบิด ราวบันได สแกนนิ้วมือ เซ็นชื่อแล้วต้องล้างมือทันที
5.เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล ใส่แมสก์ตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างๆกัน
สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต้องมีการกักตัวอย่างเข้มงวด ไม่ออกไปแพร่เชื้อ การควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดชลบุรี อยู่บนพื้นฐานของสมดุลระหว่าง การควบคุมโรค เศรษฐกิจ สังคม
ปัจจัยความเร็วในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขึ้นกับการเคลื่อนที่นอกบ้านของประชาชน ความใกล้ชิดกัน รวมทั้งระยะเวลาในการใกล้ขิดกัน นอกเหนือจากการไม่เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล หากไม่ล้างมือก่อนจับหน้า เชื้อเข้าทางจมูก ปากตา ทำให้มีการติดเชื้อและแพร่ระบาดได้
ในสภาวะการณ์ที่โควิด-19 มีการระบาดในวงกว้าง จนอาจกลายเป็นโรคประจำถิ่น เชื้อไม่ได้หมดสิ้นไป ทำให้มีโอกาสในการติดเชื้อได้ แต่ต้องไม่ให้เกิดการระบาดจนระบบสาธารณสุขรองไม่ได้ และต้องไม่เสียชีวิต ดังนั้นจึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของจังหวัดชลบุรี
ค้นให้ตรงเป้า เฝ้าให้ตรงจุด ร่วมใจฉีดวัคซีน สู่โรคประจำถิ่น
1.ค้นให้ตรงเป้า ผู้ที่มีอาการไข้หวัด ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ที่ได้วัคซีนไม่ครบ มีโอกาสเสี่ยงต่อความรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ต้องได้รับการตรวจคัดกรองด้วย ATK
2.เฝ้าให้ตรงจุด สถานที่ที่มีกลุ่มเปาะบาง เสี่ยงค่อความรุนแรงหรือเสี่ยงต่อการควบคุมการระบาดได้ยาก หากเกิดการระบาดขึ้น ต้องได้รับการคัดกรองด้วยATK สม่ำเสมอ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน สถานพักพิงคนพิการ ร้านอาหารจำหน่ายแอลกอฮอล์ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่เป็นผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัว
3.ร่วมใจฉีดวัคซีน วัคซีนลดความรุนแรงของโควิด-19 ได้ 100% แต่ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว ยังคงสามารถติดเชื้อโควิด-19 ได้ ยังคงต้องมีสุขอนามมัยส่วนบุคคล ขอความร่วมมือทุกท่านในการฉีดวัคซีน เพื่อลดความเร็วในการระบาด และลดความรุนแรงของโควิด-19 โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประตำตัว ขณะนี้ยังคงมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว และเป็นผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน
4.สู่โรคประจำถิ่น เชื้อโควิด-19 ได้ลดความรุนแรงลง และเข้าเป็นโรคประจำถิ่น ในที่สุด ทุกคนป้องกันตัวเองตามมาตรการ univeral protection ยังคงเคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล โดยเฉพาะช่วงที่กำลังมีการระบาดในวงกว้าง เพื่อชลอการระบาดไม่ให้รวดเร็วเกินไป ให้ดำเนินการตามมาตรการ คัดการด้วย ATK ก่อน และสามารถแยกกักที่บ้านได้หากไม่มีอาการและไม่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อความรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ
ที่มา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี สสจ.ชลบุรี