"สงกรานต์" เดือด! โจ๋บึงกาฬสาดกระสุนแทนสาดน้ำหน้าเวทีหมอลำ ตาย 1 เจ็บ 2
"สงกรานต์" เดือด! โจ๋บึงกาฬสาดกระสุนแทนสาดน้ำหน้าเวทีหมอลำซิ่ง ตาย 1 บาดเจ็บ 2 ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืน ล่าสุดรู้ตัวแล้ว
"สงกรานต์" เดือด ตำรวจบึงกาฬเร่งไล่ล่ามือปืนสาดกระสุนแทนสาดน้ำ ในงานบุญประจำปีที่มีการแสดงหมอลำซิ่งแสดงภายในวัด เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย และตามไปทะเลาะวิวาทกันบริเวณนอกวัดจนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย
วันที่ 15 เมษายน 2565 เวลา 09.00 น. พล.ต.ต.ธรรมจักร คงมงคล ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันภายในงานบุญสงกรานต์ที่วัดโพนสว่าง บ้านโคกก่อง ม.1 ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ เบื้องต้นได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วิชยานนท์ นิติกุล ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ พ.ต.ท.อดุลย์ ฉิมทับ รอง ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.ท.อรุณ รักสัตย์ รอง ผกก.สส. นำชุดสืบสวนเร่งติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
หลังจากได้ข้อมูลผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุที่วัดโพนสว่าง พบกับคณะกรรมการหมู่บ้านกำลังนั่งพูดคุยถึงเหตุการณ์ระทึกที่เกิดขึ้นภายในวัดคืนผ่านมา พร้อมกับสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้คลิปภาพเหตุการณ์ก่อนเกิดเหตุยิงกันความยาวเกือบ 1 นาที โดยแสดงให้เห็นว่า ขณะที่หมอลำซิ่งกำลังทำการแสดง และใกล้จะปิดการแสดงเวลาเกือบๆเที่ยงคืน มีกลุ่มวัยรุ่นเริ่มทะเลาะกันที่ด้านหน้าเวที จนมีเหตุชลมุนและมีเสียงปืนดังขึ้น มีหญิงสาวถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่ต้นขาซ้าย ทราบชื่อ น.ส.นิตยา อายุ 33 ปี ชาวบ้านโคกก่อง เพื่อนๆที่ไปเที่ยวด้วยกันรีบพาส่งโรงพยาบาลบึงกาฬ
เหตุการณ์เริ่มบานปลาย คณะหมอลำจึงหยุดการแสดงพร้อมเปิดไฟส่องสว่าง พบผู้บาดเจ็บอีกหนึ่งรายคือ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ชาวตำบลชัยพร ถูกยิงที่หัวแม่มือข้างซ้าย ในช่วงที่เกิดชลมุน 2 กลุ่ม คือกลุ่มบ้านโคกก่องเจ้าถิ่นและกลุ่มบ้านนาทราย อ.ศรีวิไล ต่างถิ่นที่มาเที่ยวงาน เริ่มทำร้ายกันด้วยการขว้างปาขวดเบียร์ใส่กัน จากนั้นกลุ่มบ้านนาทราย พากันวิ่งหนีขึ้นรถกระบะ 2 คัน ที่จอดอยู่หน้าวัด
ขณะที่กลุ่มบ้านโคกก่อง วิ่งไล่ตามและมีการทำร้ายกันระหว่างทาง จนกลุ่มบ้านนาทรายไปจอดรถรอเพื่อนๆอยู่บริเวณสามแยกหน้าป้อมตำรวจสายตรวจตำบลโคกก่อง ถนนหลวงสาย 212 บึงกาฬ-บุ่งคล้า ห่างจากวัดจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ขณะนั้นมีนายทศพร แสงเลข หรือเบนซ์ อายุ 23 ปี (ผู้ตาย) และนายธนา ชาทองดี หรือ เฟิร์น อายุ 23 ปี เพื่อนผู้ตาย วิ่งตามไปหากลุ่มผู้ก่อเหตุที่จอดรอเพื่อนอยู่ ขณะกำลังจะวิ่งข้ามเกาะกลางถนนถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุยิงปืนสวนเข้าใส่ 1 นัด นายทศพรบอกกับนายธนาว่าถูกยิงเข้าที่หน้าอก จึงประคองกันข้ามถนนกลับมาถึงหน้าอู่ซ่อมรถที่อยู่ใกล้ๆแล้วล้มฟุบลงกับพื้น
จากนั้นกลุ่มคู่อริประมาณ 3-4 คนวิ่งตามมารุมทำร้ายซ้ำเติมอีก ก่อนจะวิ่งกลับไปขึ้นรถขับหลบหนีไป พลเมืองดีรีบพานายทศพร หรือเบนซ์ ส่งโรงพยาบาลบึงกาฬ โดยขับขี่จักรยานยนต์ซ้อน 3 พาไปหาหมอ ระหว่างทางทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตลง จึงแจ้ง ร.ต.ท.ธนเดช ไตยสุทธิ
พ.ต.อ.วิชยานนท์ นิติกุล ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ยอดยม อุปกา รอง ผกก.สอบสวน นำทีมชุดสอบสวน และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าเก็บพยานหลักฐาน ปลอกกระสุนปืนที่บริเวณหน้าวัดได้ 2 ปลอก เป็นขนาด 380.ออโต้ และเก็บร่องรอยคราบเลือด เพื่อนำไปตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมสั่งให้ พ.ต.ท.อรุณ รักสัตย์ รอง ผกก.สืบสวน นำกำลังลงพื้นที่ติดตามตัวผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นได้นำตัวกลุ่มที่ทะเลาะวิวาทกันทั้ง 2 ฝ่ายมาสอบปากคำ แล้วกว่า 10 ปาก ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว อยู่ระหว่างการติดตามจับกุม
และในกลุ่มที่ทะเลาะวิวาทสารภาพถึงมือปืนที่ลั่นไกปืนแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดบึงกาฬ และตำรวจกองปราบชุดปฏิบัติการ 3 กองปราบปรามกำลังเร่งติดตามตัวมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว คาดว่าจะได้ตัวคนร้ายมือยิงตัวจริงเร็วๆนี้แน่นอน
ด้าน น.ส.ลัดดาวัลย์ พี่สาวผู้ตายที่เดินทางมาจากจังหวัดนครพนม เล่าว่า จากการสอบถามเพื่อนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ น้องไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุกลับมาอาบน้ำจะเข้านอนแล้ว มีเพื่อนมาเรียกว่ามีเรื่องกันก็กระโดดลงจากบ้าน วิ่งไปในวัดที่อยู่ห่างกันประมาณ 50 เมตร ซึ่งรถกลุ่มคนที่ก่อเหตุนั้น ขับผ่านมาหน้าบ้านพอดี แล้ววิ่งตามไปคนบนรถก็ยิงปืนใส่เลย ก่อนหน้านี้ได้พูดคุยกับน้องชายประมาณวันที่ 12 เมษายนว่า สงกรานต์พี่จะลงมาหาเจอกันวันที่ 18 เมษายน ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับน้องชาย
ส่วน นางพนอม แสงเลข อายุ 57 ปี แม่ผู้ตาย กล่าวว่า น้องเบนซ์บอกแม่เช้าวานนี้ว่า ถ้าเฮาตายซื้อเหล้ากลมให้เฮาเด้อ เบียร์เหล้าขาวไม่ต้องซื้อมาเด้อ แม่ก็เลยบอกว่ามึงจะเอาไปกินยังไงมึงตายไปแล้ว เบนซ์บอกอีกว่าถ้าแม่ไม่ซื้อให้ เบนซ์จะมาบีบคอแม่
ข่าวโดย นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี จ.บึงกาฬ