ผู้ถือหุ้นแม็คกรุ๊ป ไฟเขียวจ่ายเงินปันผลงวดปีบัญชี 2565/2566 หุ้นละ 0.81 บาท
แม็คกรุ๊ป ตอกย้ำสถานะหุ้นโกรทและปันผลปีบัญชี 2566 โกยกำไรทะลุเป้า ผู้ถือหุ้นไฟเขียว ปันผลงวดครึ่งปีหลังอีกหุ้นละ 0.36 บาท ดันทั้งปีจ่ายเต็มแม็กซ์เฉียด 100% ของกำไรสุทธิ
บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC องค์กรธุรกิจค้าปลีก ประเภทสินค้าแฟชั่น และไลฟ์สไตล์ จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2566 ณ ห้องประชุมอเนกประสงค์ แม็คสตูดิโอ บริษัท แม็คกรุ๊ป จํากัด (มหาชน) ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) โดยมี นางไขศรี เนื่องสิกขาเพียร ประธานกรรมการบริษัท เป็นประธานที่ประชุม นางสาวสุณี เสรีภาณุ ประธานกรรมการบริหาร และรองประธานกรรมการ พร้อมด้วย นายเจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายลักษณะน้อย พึ่งรัศมี ประธานกรรมการตรวจสอบเข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้ ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นมีวาระสำคัญ รายงานและขออนุมัติงบประจำปี 2565/2566 ซึ่งถือว่าเป็นปีที่ประสบความสำเร็จ เติบโตเกินเป้าหมายที่วางไว้ที่จะโต 20% และยังคงทำสถิติสูงสุด โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 644 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 158 ล้านบาท หรือ 32.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 486 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิ 17.4% สูงกว่าปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 16.5% รวมทั้งยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ในระดับสูงที่ระดับ 64.8% บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้ารวม 3,670 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 747 ล้านบาท หรือ 25.6% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นมีมติเอกฉันท์อนุมัติจ่ายเงินปันผลตามที่มติคณะกรรมการ แม็คกรุ๊ป นำเสนอให้จ่ายเงินปันผล สำหรับผลดำเนินงานปีบัญชี 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.81 บาท โดยจ่ายในงวดครึ่งปีแรกไปแล้ว 0.45 บาท และจ่ายในงวดครึ่งปีหลังอีกหุ้นละ 0.36 บาท จะขึ้นเครื่องหมาย XD (วันที่ไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผล) ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 และในทุกๆ ปีบริษัทฯ จะจ่ายปันผลเกือบ 100% เกินนโยบาย
นายเจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. แม็คกรุ๊ป ได้กล่าวกับผู้ถือหุ้นว่า คณะผู้บริหารให้ความมั่นใจกับผู้ถือหุ้นถึงแนวทางในการทำธุรกิจปีบัญชี 2566/2567 ว่ามีแนวโน้มผลดำเนินงานจะเติบโตและทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายว่าในปีบัญชี 2567 ผลประกอบการจะเติบโตจากปีก่อน 10-17% ผ่านกลยุทธ์ทางธุรกิจที่วางไว้ รวมถึงการจับมือกับพันธมิตรในการทำธุรกิจ เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง และถือเป็นโอกาสใหม่ๆ ในการทำธุรกิจ เช่น การจับมือกับขายหัวเราะ นำเสนอคอลเลกชันพิเศษ หลังออกวางจำหน่ายได้รับผลตอบรับที่ดี ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลงานไตรมาสแรกของปีบัญชี 2567 ออกมาสดใส รวมไปถึงแนวโน้มเติบโตของภาคเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น มั่นใจจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตของยอดขายและกำไรสุทธิได้อย่างต่อเนื่อง