ตำรวจยันแก๊สน้ำตา-สีม่วงผสมน้ำไม่อันตราย
"พล.ต.อ.จรัมพร"แถลงยันแก๊สน้ำตา-สีม่วงผสมน้ำ ไม่มีอันตราย
พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา(สบ10) พร้อมด้วย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ผบช.สพฐ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านเคมี กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ร่วมกันแถลงผลการตรวจสอบสารประกอบแก๊สน้ำชนิดเหลว(Chlorobenzylidene-malononitrileและMethylene Chloride) หรือ CS GAS และสารทำละลายเมธิลด์ไวโอเล็ต (Methyl Violet) ซึ่งใช้ผสมในน้ำให้เกิดสีม่วงเพื่อฉีดใส่กลุ่มผู้ชุมนุม ของกลุ่มกปปส. ว่า ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานไปเก็บตัวอย่างสารเคมีที่ตำรวจใช้ในการควบคุมฝูงชนครั้งนี้ ได้แก่ แก็สน้ำตาชนิดเหลว และสารทำละลายเมธิลด์ไวโอเล็ต (Methyl Violet) จากการตรวจสอบโครงสร้างทางเคมีพบว่าตรงกันกับสเป็คของสารเคมีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดซื้อเพื่อใช้ในการควบคุมฝูงชน
อย่างไรก็ตามยอมรับว่าแก็สน้ำตาชนิดเหลวเป็นสารเคมีที่มีการระคายเคืองต่อดวงตา และระคายเคืองต่อผิว ซึ่งหากโดนเสื้อผ้าสารตัวนี้จะไปเคลือบเสื้อผ้าจะต้องถอดออกทิ้งเพราะไม่สามารถซักออกได้ และล้างผิวด้วยน้ำสะอาด ซึ่งจะระคายเคืองผิวนานประมาณ 30 นาที ทั้งนี้ จากตรวจสอบสภาพความเป็นกรดด่างพบว่ามีค่า PH7 มีสภาพความเป็นกลาง นอกจากนี้อาจส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจทำให้หายใจติดขัดได้ และหากเข้าปากอาจส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหารทำให้อาเจียน ทั้งนี้ ยืนยันว่าสารเคมีเหล่านี้หากได้รับในปริมาณมากๆ หรือมีการแพ้อาจจะต้องมีการปฐมพยาบาล อาจแค่ล้างด้วยน้ำสะอาด หรืออาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในรายที่มีอาการมาก แต่ยืนยันว่าไม่มีอันตรายถึงชีวิต ส่วนสารทำละลายเมธิลด์ไวโอเล็ต (Methyl Violet) ซึ่งใช้ผสมในน้ำให้เกิดสีม่วง มีโครงสร้างทางเคมีเดียวกับยาป้ายปาก ทั้งนี้ ยอมรับว่าเป็นครั้งแรกที่ตำรวจใช้เพราะตำรวจเพิ่งมีรถควบคุมฝูงชน แต่ยืนยันว่าสารเคมีเหล่านี้เป็นอุปกรณ์ควบคุมฝูงชนที่เป็นสากล มีใช้ในหลายประเทศ ซึ่งในบางประเทศอาจมีการผสมสีให้เป็นสีอื่นๆ
พล.ต.อ.จรัมพร กล่าวว่า เหตุผลที่มีการใช้สารเคมีเหล่านี้ในการควบคุมฝูงชนมีความมุ่งหมายไม่ให้เกิดการปะทะ เพราะหากมีการปะทะตัวต่อตัว ไม่รู้จะมีการใช้อาวุธอะไร และอาจมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งการใช้สารเคมีเหล่านี้เราก็คำนึงถึงความปลอดภัยในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสุขภาพอนามัยของประชาชนด้วย ส่วนเหตุผลหนึ่งที่มีการผสมสีลงไปในน้ำเพื่อแยหแยะมวลชน และประกาศอาณาเขตว่าเป็นพื้นที่ที่มีการใช้แก็สน้ำตา หากผู้ชุมนุมเข้ามาในพื้นที่อาจต้องได้รับผลกระทบจากแก็สน้ำตา ซึ่งมาตรการเหล่านี้อยู่ในขั้นตอนการควบคุมฝูงชนที่เป็นมาตรฐานสากล ซึ่งตำรวจจะแจ้งเตือนให้ผู้ชุมนุมทราบก่อนทุกครั้งว่าจะใช้อุปกรณ์ควบคุมฝูงชนอะไร ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ามีสัตว์เลี้ยงได้รับผลกระทบจากแก็สน้ำตาด้วย จึงอยากให้นำสัตว์เลี้ยงดังกล่าวที่ได้รับผลกระทบมามอบให้ เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะช่วยทำการตรวจต่อไป