ไทม์ไลน์'เสี่ยโจ้'สารพัดคดีบนเส้นทางสีเทา

ไทม์ไลน์'เสี่ยโจ้'สารพัดคดีบนเส้นทางสีเทา

(รายงาน) ไทม์ไลน์ "เสี่ยโจ้" สารพัดคดีบนเส้นทางสีเทา

ข่าวฮือฮาว่าด้วย "เสี่ยโจ้" นักธุรกิจชื่อก้องแห่งภาคใต้ตอนล่าง หลบหนีคำพิพากษาจำคุกของศาลจังหวัดปัตตานี โดยอาจมีตำรวจบางนายรู้เห็นเป็นใจด้วยนั้น

ทำให้ชื่อของเขา นายสหชัย เจียรเสริมสิน กลับมาโลดแล่นให้สังคมได้ติดตามความเคลื่อนไหวกันอีกครั้ง

หากประมวลจากข่าวคราวที่เกี่ยวกับตัวเขา ปฏิเสธไม่ได้ว่า "เสี่ยโจ้" ดำเนินชีวิตและทำธุรกิจอยู่บนเส้นทางสีเทา เขาถูกกล่าวหาเกี่ยวพันกับขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ที่สุดของภาคใต้ และขบวนการนำเข้าไม้เถื่อน แต่ทั้งสองข้อหานี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถหาหลักฐานดำเนินคดีเขาได้

ทว่าก็ยังมีธุรกิจอีกมากมายที่เขาทำ และบางธุรกิจก็หนีไม้พ้นเงื้อมมือของกฎหมาย เช่น ค้าหวยใต้ดิน เป็นต้น และล่าสุดคือการถูกยึดเอกสารแผ่นตรวจลงตราปลอม สำหรับการนำเข้าสินค้า จนเขาถูกดำเนินคดี และโดนศาลพิพากษาจำคุก 1 ปี 9 เดือนโดยไม่รอลงอาญา

หากย้อนดูไทม์ไลน์ หรือ จังหวะก้าวของเขาในแต่ละห้วงเวลา จะพบว่ามีความน่าสนใจ...

ปี 46-49 ถูกดำเนินคดีในข้อหาค้าหวยใต้ดิน

17 ต.ค.55 ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจค้นบ้านและห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) สินทรัพย์ทวีค้าไม้ ยึดของกลางได้จำนวนหนึ่ง เช่น รถบรรทุกดัดแปลงสำหรับขนน้ำมัน

2 พ.ย.55 เข้ารับทราบข้อกล่าวหาของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานความผิดเกี่ยวกับสรรพากร พร้อมยื่นประกันตัวด้วยเงิน 5 แสนบาท

5 พ.ย.55 แถลงข่าวที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจผิดกฎหมายทุกประเภท

6 ต.ค.56 เจ้าหน้าที่ บริษัท สหทรัพย์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ธุรกิจในเครือของนายสหชัย เข้าแจ้งความกับตำรวจว่า เมื่อวันที่ 2 ต.ค.56 เรือขนเงินของบริษัทถูกปล้นบริเวณนอกชายฝั่ง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี มีลูกเรืออยู่ 8 คน ถูกยิงเสียชีวิตไป 7 คน ที่เหลือ 1 คนก็หายตัวไป ขณะที่เงินสดทั้งสกุลเงินไทยและต่างประเทศเกือบ 120 ล้านบาทสูญหายไป ต่อมาตำรวจกองปราบตามเงินคืนมาได้ และจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย

17 มิ.ย. 57 ชุดปฏิบัติการปราบปรามภัยแทรกซ้อนต่อความมั่นคง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า บุกตรวจค้น หจก.สินทรัพย์ทวีค้าไม้ของนายสหชัย และได้คุมตัวนายสหชัยไปสอบสวนในคดีความมั่นคง

19 มิ.ย.57 มีข่าวว่า นายสหชัย รับสารภาพว่าทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับน้ำมันจริง แต่ทำในทะเลนอกน่านน้ำไทย

26 มิ.ย.57 พนักงานสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี นำตัวนายสหชัยไปขออำนาจฝากขังจากศาลปัตตานีผลัดแรก แต่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวตามที่ทนายและญาติได้ยื่นร้องขอ เพราะเคยมีประวัติหลบหนีประกัน

16 ก.ค.57 ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวนายสหชัย

5 ส.ค.57 เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าตรวจสอบและอายัดทรัพย์ที่ หจก.สหทรัพย์ทวีค้าไม้ พบเงินสดและทองแท่งในตู้เซฟ มูลค่านับร้อยล้านบาท

15 ก.ย.57 เจ้าหน้าที่สรรพากร นำเจ้าหน้าที่กองบังคับคดีจังหวัดปัตตานี ยึดทรัพย์ต่างๆ ของนายสหชัย

9 ต.ค.57 นายสหชัยเดินทางไปขึ้นศาลจังหวัดปัตตานีเพื่อรับฟังคำพิพากษาคดีครอบครองเอกสารตรวจลงตราเข้าเมืองปลอม ศาลสั่งลงโทษจำคุก 1 ปี 9 เดือนโดยไม่รอลงอาญา ทำให้นายสหชัยตัดสินใจหลบหนี

..........

สั่งออกจากราชการไว้ก่อน

พ.ต.อ.ปราบพาล มีมงคล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี (รองผบก.ภ.จว.ปัตตานี) กล่าวว่า ร.ต.ต.อรุณ มีตำแหน่งเป็นรอง สวป.ทำหน้าที่ตำรวจควบคุมผู้ต้องหาประจำศาล อายุ 59 ปี ขณะนี้ในทางวินัยได้สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง

ผลการสอบปากคำ ร.ต.ต.อรุณ ในเบื้องต้น เจ้าตัวอ้างว่าขณะที่นายสหชัยหลบหนี เขาเดินไปโทรศัพท์ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าเป็นความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่