ความเชื่อมั่นนักลงทุนทรงตัว

ความเชื่อมั่นนักลงทุนทรงตัว

ดัชนีความเชื่อมั่น ‘FETCO NIDA Investor Sentiment Index’ ชี้นักลงทุนมองตลาดทรงตัวในอีก 3 เดือนข้างหน้า

นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยว่า สภาธุรกิจตลาดทุนไทย และนิด้าโพล เปิดตัวดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน “FETCO NIDA Investor Sentiment Index” สะท้อนความเชื่อมั่นนักลงทุนในอนาคตเป็นดัชนีแรกของตลาดทุนไทยซึ่งจะเป็นแนวโน้มตลาดทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า โดยจะเริ่มเก็บข้อมูลในวันที่ 21 ของเดือน และเผยแพร่ในวันที่ 1-5 ของเดือนถัดไป ทั้งนี้จะเริ่มเผยแพร่ดัชนีอย่างเป็นทางการในเดือน ม.ค. 2558 ซึ่งจะเป็นการสำรวจความเชื่อมั่นในเดือน ธ.ค. 2557

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นล่าสุดอยู่ที่ 119.22 จุด ซึ่งแสดงว่านักลงทุนมองแนวโน้มทรงตัวในอีก 3 เดือนข้างหน้า โดยปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนนั้น ค่อนข้างสอดคล้องกันคือ นักลงทุนส่วนใหญ่กังวลกับเศรษฐกิจในประเทศ นโยบายด้านเศรษฐกิจและสถานการณ์ต่างประเทศเป็นหลัก แต่คลายความกังวลจากปัญหาสถานการณ์ทางการเมืองอย่างชัดเจน

ในขณะที่หมวดอุตสาหกรรมที่น่าลงทุนสูงสุดจากการสำรวจคือธุรกิจการเงิน ส่วนกลุ่มสินค้าอุปโภคและบริโภคเป็นธุรกิจที่นักลงทุนลงความเห็นว่าไม่น่าลงทุนมากที่สุด อย่างไรก็ตามดัชนีความเชื่อมั่นที่จะเปิดเผยอย่างเป็นทางการในเดือน ม.ค. 2558 จะมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เนื่องจากจะมีข้อมูลจากนักวิเคราะห์แบบเจาะลึกให้รายละเอียดของปัจจัยและกลุ่มอุตสาหกรรมที่นักลงทุนให้ความสนใจและไม่สนใจเพิ่มขึ้นมาด้วย

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นนี้ได้เริ่มสำรวจอย่างไม่เป็นทางการในเดือน พ.ค. ซึ่งตัวเลขดัชนีอยู่ที่ 101.8 จุด ขณะที่ตัวเลขดัชนีในปัจจุบันซึ่งสำรวจในเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา มีตัวเลขดัชนีอยู่ที่ 119.22 จุด ซึ่งเป็นระดับทรงตัว ทั้งนี้ได้แบ่งดัชนีออกเป็น 5 ส่วน คือ ตั้งแต่ 0-40 แสดงว่ามีแนวโน้มซบเซาอย่างมาก 41-80 มีแนวโน้มซบเซา 81-120 มีแนวโน้มทรงตัว 121-160 มีแนวโน้มร้อนแรง และ 161-200 มีแนวโน้มร้อนแรงอย่างมาก

ด้านนายกำพล ปัญญาโกเมศ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนี้ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ หากเทียบกับดัชนีความเชื่อมั่นในต่างประเทศที่มีมาก่อนหน้านี้ เนื่องจากดัชนีที่ได้ทำในครั้งนี้เป็นการสำรวจนักลงทุนจากทุกกลุ่ม และในอนาคตอาจจะศึกษาเพิ่มเติมได้อีกว่า นักลงทุนกลุ่มไหนที่มีผลกับตลาดมากที่สุด หากมีข้อมูลเพิ่มขึ้นมากกว่านี้

“อย่างไรก็ตามคงไม่สามารถบอกได้ทันทีว่าดัชนีนี้สามารถคาดการณ์แนวโน้มได้ถูกต้องทุกเดือนหรือไม่ แต่จากการพิจารณาดัชนีในต่างประเทศที่มีมาก่อนหน้านี้คือ ไม่สามารถคาดการณ์ถูกต้องได้ทุกเดือน แต่ที่สำคัญคือนักลงทุนจะสามารถใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้” นายกำพล กล่าว

ด้านนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า บล.ทิสโก้อาจพิจารณาปรับลดการเติบโตของกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนในปีหน้าลงต่ำกว่า 13% เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างมาก ส่งผลให้กำไรสุทธิของกลุ่มพลังงานและธุรกิจที่เกี่ยวข้องลดลง ซึ่งกลุ่มพลังงานและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง คิดเป็นสัดส่วนถึง 30% ของดัชนีตลาดหุ้นไทย ส่วนกำไรสุทธิในปีนี้น่าจะไม่เติบโตขึ้นตามทิศทางจีดีพีของประเทศ

ขณะที่การปรับตัวลดลงกว่า 100 จุด ของดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงกลางเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา น่าจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนพอสมควร ซึ่งองค์กรที่มีหน้าที่ควบคุมควรหาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดกรณีแบบนี้อีก โดยเฉพาะในหุ้นขนาดเล็กซึ่งปรับตัวขึ้นแรงมากซึ่งอาจจะเกินพื้นฐานของบริษัท สาเหตุที่สำคัญอย่างหนึ่งเป็นเพราะบทวิเคราะห์ในหุ้นเหล่านี้ยังมีน้อยมาก