'สยามแก๊ส'มั่นใจปีนี้พลิกมีกำไร

นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP เปิดเผยว่า มั่นใจว่าปีนี้บริษัทจะสามารถพลิกมีกำได้ จากปีก่อนที่ขาดทุน 588 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนราคาก๊าซที่ต่ำลง โดยปัจจุบันราคาอยู่ที่ 460-480 เหรียญต่อตัน ถือว่าเป็นจุดต่ำสุดแล้ว และน่าจะมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องตามดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้บริษัทฯ มีต้นทุนที่ลดลง และน่าจะมีกำไรจากการสต็อกก๊าซ โดยประเมินว่าราคาก๊าซเฉลี่ยในปีนี้จะขึ้นไปถึงระดับ 600-700 เหรียญต่อตัน  

ทั้งนี้ บริษัทคาดอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับมากกว่า 10% จากปีก่อนที่ลดลงไปเหลือเพียง 1% เท่านั้น

"ปีก่อนเราขาดทุนจากการสต็อกก๊าซค่อนข้างมาก เพราะราคาผันผวนอย่างหนักจากต้นปีที่ระดับ 1,020 เหรียญต่อตัน ลงไปต่ำสุดถึง 550 เหรียญต่อตัน ซึ่งในปีนี้จะเป็นในทิศทางตรงกันข้าม คือ เริ่มจากฐานต่ำและคงทยอยปรับขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เราน่าจะมีกำไรจากการสต็อกก๊าซ"นางจินตณา กล่าว

ขณะที่ตั้งเป้ารายได้และปริมาณขายเติบโต 5-6% จากปีก่อนที่ทำได้ 6.2 หมื่นล้านบาท และ 2.44 ล้านตัน ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวเป็นการประเมินภายใต้พื้นฐานแบบอนุรักษ์นิยม เนื่องจากราคาก๊าซยังคงมีความผันผวนเช่นเดียวกันราคาน้ำมัน ซึ่งบริษัทจะประเมินแนวโน้ม 1-2 ไตรมาส ถึงจะมีการทบทวนเป้าหมายดังกล่าวอีกครั้ง

ด้านแผนการลงทุนปีนี้ บริษัทตั้งงบลงทุน 600 ล้านบาท เพื่อใช้ขยายสถานีจำหน่ายก๊าซอีก 5 แห่ง เงินลงทุนราว 15 ล้านบาทต่อแห่ง ไม่รวมค่าซื้อที่ดินซึ่งขึ้นอยู่กับทำเล ขณะที่จะใช้เงินลงทุนกว่า 100 ล้านบาท สร้างคลังเก็บก๊าซ ความจุ 3,000 ตัน ส่วนที่เหลือจะใช้ลงทุนเพิ่มถังแก๊สหุงต้มประมาณเดือนละ 40,000-50,000 ใบ ใช้เงินลงทุนกว่า 200 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อเข้าทำธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปีนี้ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการทั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์เข้ามาเจรจา เพื่อให้บริษัท เข้าไปร่วมทำธุรกิจดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากธุรกิจพลังงานด้านไฟฟ้าเป็นสิ่งที่บริษัทยังไม่มีความถนัด จึงต้องศึกษาความเป็นไปได้ต่าง ๆก่อน โดยน่าจะมีข้อสรุปว่าจะทำหรือไม่ภายในปีนี้