"ศูนย์ฯสิริกิติ์"รีโนเวท “เทรดแฟร์”เล็งพื้นที่ใหญ่-กลางเมือง

จากการมีศูนย์ประชุมขนาดใหญ่รองรับ 3 แห่ง โดยมี “ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์” เป็นหนึ่งในตัวเลือกหลักกมาตลอด ด้วยจุดแข็งเรื่องทำเลตั้งอยู่ “ใจกลางเมือง” และเชื่อมต่อระบบขนส่งรถไฟฟ้าใต้ดิน

อย่างไรก็ตามหลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติต่อสัญญาสัมปทานและขยายเวลาเช่าให้ 50 ปี ศูนย์ฯ สิริกิติ์ เตรียมแผนรีโนเวทครั้งใหญ่เพื่อขยายพื้นที่จึงส่งผลกระทบต่อการบริการช่วงปิดปรับปรุง ทำให้ผู้จัดงานต้องเตรียมแผนหาสถานที่ทดแทน

ศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี.แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอป เม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กล่าวว่า การปรับปรุงครั้งนี้เอ็น.ซี.ซี.หนึ่งในธุรกิจของกลุ่ม “เจริญ สิริวัฒนภักดี” ซึ่งเป็นผู้บริหารศูนย์ฯตั้งแต่ปี 2534 จะต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท โดยมีแผนขยายพื้นที่จัดงานและก่อสร้างโรงแรม 

ทั้งนี้ปัจจุบันพื้นที่จัดประชุมเมื่อเทียบกับ3ศูนย์ใหญ่ในกรุงเทพฯถือว่าน้อยที่สุดโดยอิมแพ็คเมืองทองธานีมีขนาดกว่า1.5แสนตร.ม.และไบเทคมากกว่า7หมื่นตร.ม.

อย่างไรก็ตามระยะเวลาในการเริ่มต้นยังไม่กำหนด แต่ข้อสรุปล่าสุด ตลอดปี 2561 จะยังเปิดให้บริการปกติ และพูดคุยกับผู้จัดงานไปแล้ว ขณะที่ปี 2562 ยังไม่แน่ชัดว่าจะเริ่มรีโนเวทช่วงไหน ทั้งนี้ที่ผ่านมาการจัดงานใหญ่ทั้งระดับในประเทศและนานาชาติยังดำเนินการตามแผนเดิม มีอัตราการใช้งานกว่า 80% ของพื้นที่การจัดงานรวมกว่า 2.2 หมื่นตร.ม.

เช่น สัปดาห์นี้ จัด “มหกรรมหนังสือระดับชาติ” ครั้งที่ 22 คาดว่าจะมีการตอบรับที่ดีแม้อยู่ในเดือนถวายอาลัย แต่เนื่องจากผู้จัดงาน ได้รับความร่วมมือกับกระทรวงวัฒนธรรมในการจัดธีมหนังสือที่เกี่ยวข้องกับรัชกาลที่ 9 โดยเฉพาะ จึงสร้างความสนใจจากคนไทยได้มาก

กฤตย์ พัตรปาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.เค.เอ็กซิบิชั่น แมนเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า งาน “ไทยเที่ยวไทย”  จัดที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์มาตลอด 17 ปี จนเป็นแบรนด์ที่สร้างการรับรู้มาคู่กัน โดยในปีนี้ยังคงได้รับการยืนยันจัดงานใหญ่ 2 งานช่วงต้นปีและปลายปีเช่นเดิม ทั้งนี้จุดแข็งของศูนย์ฯสิริกิติ์ที่ในมุมมองลูกค้ามากที่สุดคือ รถไฟฟ้าที่สะดวกด้วยสถานีถึงหน้าประตู แต่ข้อจำกัดที่มีตลอดเช่นกัน คือ พื้นที่การจัดงานที่ใช้เต็มอัตรารองรับกว่า 2 หมื่นตร.ม.แล้วก็ยังไม่เพียงพอ ส่งผลให้ที่ผานมาต้องวางแผนจัดเส้นทางเดินภายในศูนย์เนื่องจากบางครั้งมีผู้เข้าร่วมกว่า 5 แสนคน/4 วัน ทั้งที่การรองรับที่เหมาะสมกับพื้นที่จะอยู่ที่ราว 2 แสนคน 

           “ขณะนี้ได้รับการยืนยันจากศูนย์ฯสิริกิติ์ ในการจัดงานในแบบปีต่อปี แต่ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อม ก็เริ่มมองหาสถานที่ใหม่บ้างแล้ว เพื่อไม่ให้กระทบต่อแผนงานที่ต้องมีในแต่ละปี”

            กฤตย์ กล่าวว่า หากย้ายไปที่ไบเทคและอิมแพ็ค ข้อดีก็คือ มีพื้นที่กว้าง โดยเฉพาะไบเทค มีรถไฟฟ้าที่รองรับและมีการสร้างทางเดินเชื่อมต่อจากสถานี และพฤติกรรมนักท่องเที่ยวชอบเดินชอปปิงในงานที่มีพื้นที่กว้างขวาง มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกจำนวนมาก เนื่องจากการจัดเทรดแฟร์จะมีจำนวนไม่กี่ครั้งต่อปี จึงต้องการตัวเลือกที่หลากหลายก่อนนำไปสู่การตัดสินใจ

อย่างไรก็ตาม พิจารณาตัวเลือกที่มีขนาดรองลงมา คือ รอยัล พารากอน ฮอลล์  ซึ่งแม้จะมีพื้นที่ 6,000-7,000 ตร.ม.  แต่ข้อได้เปรียบคืออยู่ใจกลางเมืองและเดินทางสะดวก จึงยังสามารถรองรับงานไทยเที่ยวไทยในสเกลเล็กที่ใช้พื้นที่เฉลี่ย 1 หมื่นตร.ม.ได้

อดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ อุปนายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) กล่าวว่า ทุกปีมีการจัดงาน “เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก” 2 ครั้งต่อปีที่ศูนย์ฯสิริกิติ์ และในปีหน้าก็ยังยืนยันตามเดิม โดยช่วงต้นปีกำหนดวันที่ 7-11 ก.พ. แต่ก็เริ่มพิจารณาความเป็นไปได้ด้านสถานที่อื่นๆ โดยต้องการพื้นที่ 1 หมื่นตร.ม. รองรับผู้ประกอบการ 1,000 บูธ และผู้เข้าชม 3 แสนคน ตลอดการจัดงาน 4 วัน

ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาคือ “ทำเลใจกลางเมือง” เน้นความสะดวกในการเดินทาง ซึ่งเป็นสิ่งที่ศูนย์ฯสิริกิติ์ตอบโจทย์ได้ดีที่สุดที่ผ่านมา

สุชาดา สหัสกุล นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จัดจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย กล่าวว่าได้พูดคุยกับศูนย์ฯสิริกิติ์ ในการจัดหาสถานที่ทดแทนเมื่อรีโนเวท ซึ่งตามปกติมหกรรมหนังสือระดับชาติ จะใช้พื้นที่เฉลี่ยกว่า 2.1 หมื่นตร.ม. หรือเต็มความจุของศูนย์ฯ 

ดังนั้น หากสถานที่ใหม่มีพื้นที่มากกว่าเดิม ก็จะตรงกับความต้องการของสำนักพิมพ์ต่างๆ แม้ปัจจุบันตลาดออนไลน์จะมีบทบาทเพิ่มขึ้น แต่มหกรรมหนังสือก็ยังเป็นอีเวนท์ประจำที่นักอ่านรอคอย และสามารถสร้างรายได้ให้กับสำนักพิมพ์สูง จากผู้เข้าชมงานราว 1.5-2 ล้านคน เช่น งานสัปดาห์นี้คาดว่าจะมียอดขายสะพัด 600-700 ล้านบาท

ขณะที่ แหล่งข่าวผู้จัดมหกรรมบ้านและคอนโดซึ่งปกติที่ใช้ศูนย์ฯสิริกิติ์ จัดงานทุกปี กล่าวว่ากำลังพิจารณาย้ายสถานที่ไปที่ รอยัล พารากอน ฮอลล์ แทน เนื่องจากขนาดรองรับได้ใกล้เคียงกับความต้องการพื้นที่ปัจจุบัน และเดินทางสะดวก