การท่าเรือฯ แจงปัญหาแออัดท่าเรือแหลมฉบัง

ร.ต.ทรงธรรม จันทประสิทธิ์ รอง ผอ.การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) สายวิศวกรรม รักษาการแทนผอ.กทท. กระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จากการที่ปรากฏเป็นข่าวสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยถึงแนวโน้มการปรับเพิ่มค่าระวางเรือ โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม และปัญหาความแออัดที่เกิดขึ้นจากการขนส่งสินค้าบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง ทำให้ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าเรียกเก็บค่าหัวรถลากเพิ่มขึ้นอีก 1,000 บาท/ตู้ และเสียเวลาในการทำรอบ ส่งผลให้ผู้ส่งออกมีต้นทุนเพิ่มขึ้นนั้น

         

ร.ต.ทรงธรรม กล่าวชี้แจงว่า กทท.ได้ประสานงานกับผู้ประกอบการสายเรือ ได้รับแจ้งว่าจะยังไม่เรียกเก็บค่าระวางเพิ่มในช่วงนี้ และในระยะอันใกล้ เพื่อเป็นการส่งเสริมบรรยากาศการลงทุน สำหรับการเรียกเก็บค่าขนส่งทางรถยนต์เพิ่มขึ้น 1,000 บาท ได้รับการยืนยันจากทางสมาคมผู้ประกอบการขนส่งสินค้าว่า ยังไม่ปรับขึ้นราคาแต่อย่างใด ซึ่งการที่สมาคมจะปรับราคาขึ้นอยู่กับปัจจัยของต้นทุนเป็นหลัก 
         

ส่วนปัญหาความแออัดที่เกิดจากการขนถ่ายสินค้านั้น มีสาเหตุจากปัจจุบันท่าเรือแหลมฉบังอยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ ทำให้การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟจาก ICD-ลาดกระบัง ลดลงจากวันละ 22 ขบวน เหลือ 12 ขบวน และตู้สินค้าส่วนที่เหลือถูกส่งมาทางถนน ส่งผลให้มีรถบรรทุกตู้สินค้าทางถนนเพิ่มขึ้น รวมถึงวันที่มีเรือสินค้าขนาดใหญ่เข้าท่าเรือ (วันพฤหัสบดี ศุกร์ และเสาร์) ทำให้การจราจรติดขัดและมีปริมาณรถสะสมเพิ่มมากกว่าปกติ ประกอบกับในช่วงเดือนที่ผ่านมา มีเรือเข้าท่าเรือแหลมฉบังล่าช้ากว่าเวลาที่กำหนด ทำให้กระทบต่อการบริหารจัดการวางตู้สินค้า จึงมีปัญหาตู้สินค้าสะสม ส่งผลกระทบต่อการจราจรในพื้นที่ท่าเรือ
          

รองผอ.กทท. กล่าวอีกว่า สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหา กทท. ได้ดำเนินการ ดังนี้ 1.ท่าเรือแหลมฉบังได้จัดประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาการจราจร ร่วมกับ สรท. ชมรมผู้ประกอบการขนส่งทางเรือ และผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งที่ประชุมขอให้ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือจัดทำข้อมูลการปฏิบัติงานท่าเทียบเรือ เพื่อประกอบการตัดสินใจในเรื่องช่วงเวลาที่เหมาะสมในการขนส่ง ซึ่งท่าเรือแหลมฉบังได้ดำเนินการแล้ว
         

2. กรณีที่รถบรรทุกจอดติดสะสมเป็นแถวยาว จะใช้พื้นที่ว่างของท่าเรือในการตัดแถวรถให้ไปอยู่ในลานพักเพื่อรอเรียกเข้าท่า 3.-เมื่อเปิดให้บริการท่าเทียบเรือ D1 ในเดือนพฤษภาคม 2561 จะสามารถระบายตู้สินค้า ไปยังท่าเทียบเรือใหม่ได้ และ 4. ท่าเรือแหลมฉบังได้นำระบบจองคิวรถบรรทุกมาใช้ในการบริหารจัดการรถบรรทุกเข้าออกท่าเรือ เพื่อแก้ปัญหาความแออัดของรถบรรทุก โดยจะเริ่มทดลองใช้ปลายเดือนเมษายน 2561 
            

ทั้งนี้ กทท. ได้เร่งรัดการก่อสร้างศูนย์การขนส่งสินค้าทางรถไฟมาโดยตลอด ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการจัดหาอุปกรณ์ X-Ray-และขอจัดสรรงบประมาณก่อสร้างเพิ่มเติม โดยจะเปิดให้บริการขั้นต้นได้ภายในเดือนกันยายน 2561 และจะสรรหาผู้ประกอบการเคลื่อนย้ายตู้สินค้าภายในท่าเรือแหลมฉบังอย่างถาวรต่อไป.