ไอเอ็มเอฟเตือนศก.ยูโรโซนเผชิญความเสี่ยงมากขึ้น
แนะแก้ไขจุดอ่อนด้านนโยบาย
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตือนว่า เศรษฐกิจยูโรโซนกำลังเผชิญกับความเสี่ยงมากขึ้นจากหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงการปกป้องทางการค้า และการที่สหราชอาณาจักรถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิิท)
นายเดวิด ลิปตัน รองกรรมการผู้จัดการคนที่หนึ่งของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ระบุถึงเรื่องดังกล่าวในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่กรุงลิสบอน พร้อมแนะว่า ยุโรปจำเป็นต้องดำเนินการมากขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับภาวะเศรษฐกิจขาลงครั้งต่อไปที่เขาเชื่อว่าจะเกิดขึ้นในที่สุด ยุโรปต้องกำจัดจุดอ่อนด้านนโยบายให้ได้ ก่อนที่จะลุกลามจนเกิดภาวะเศรษฐกิจขาลงขึ้นมาอีกครั้ง
รองผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟยังชี้ไปที่ อิตาลี ซึ่งมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับสามในยูโรโซน ว่ามีความเปราะบางอย่างชัดเจนและไม่มีการเตรียมความพร้อม โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของอิตาลีหดตัว 0.2% ในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค. 2561 หลังจากที่ปรับตัวลง 0.1% ในไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้อิตาลีประสบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นครั้งที่สามในรอบสิบปี และมีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจอิตาลีจะหดตัวลงอีกในไตรมาสนี้
นายลิปตัน เตือนว่า ยุโรปไม่อาจพึ่งพาเครื่องมือแบบเดียวกับที่เคยใช้ในการต่อสู้กับวิกฤติการเงินเมื่อปี 2551 เพราะธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคไม่อาจใช้มาตรการกระตุ้นทางการเงินได้มากไปกว่านี้แล้ว และรัฐบาลหลายประเทศแบกรับภาระหนี้สูงอยู่แล้วในขณะนี้