หมายเรียก! 'หม่อมกำมะลอ' อ้างเป็นลูกผบ.ทบ. ปลอมเฟซบุ๊กตุ๋นเหยื่อ 1.5 แสน
"จิน เดอะว๊อยซ์" ตามเร่งคดี "หม่อมกำมะลอ" อ้างเป็นลูกสาวผบ.ทบ. ปลอมเฟซบุ๊กหลอกตุ๋นเหยื่อ 1.5 แสน ได้เงินคืนมาแค่หมื่นเดียว ขณะที่ตร.หมายเรียกแล้ว อยู่ระหว่างติดตามตัว
กรณีเพจดังโพสต์เรื่องราวที่กลุ่มผู้เสียหายถูกสาวมิจฉาชีพ สวมรอยใช้รูปภาพสาวสวยเป็นโปรไฟล์เฟซบุ๊ก อ้างตัวเป็นลูกสาวของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พูดคุยหลอกลวงให้เหยื่อตายใจ ก่อนชักชวนเข้าไลน์กลุ่มครอบครัว กระทั่งจับผิดได้ว่าคนร้ายปลอมตัวตนมาหลอกเอาเงิน
ล่าสุด ที่สน.วังทองหลาง เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 30 กรกฎาคม นายจินดา วิริยะแสงจันทร์ หรือจิน เดอะว๊อยส์ หนึ่งในผู้เสียหาย เข้าพบ พ.ต.อ.วรพงษ์ ภวเวส ผกก.สน.วังทองหลางพร้อม พ.ต.ท.เชาวฤทธิ์ เงินฉลาด รอง ผกก.(สอบสวน) เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียก น.ส.วนิดา หรือเฟีย ผู้ต้องหาในความผิดฐานฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ไปเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
นายจินดา กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเริ่มตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้ทักแชตเฟซบุ๊กมาหาตน หลังจากที่ได้เป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กกันมาตั้งแต่ช่วงต้นปี โดยระบุว่าตนเองได้เลิกแผนที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่เป็นนักกีฬาทีมชาติรายหนึ่ง ซึ่งคนร้ายเคยลงรูปภาพการ์ดเชิญเข้าร่วมงานไว้บนหน้าเฟซบุ๊กของตัวเอง โดยตนได้ไปตรวจสอบเฟซบุ๊กของนักกีฬาทราบได้ว่าเป็นตัวจริง เห็นว่าพูดคุยโต้ตอบกันกับผู้ต้องหา อีกทั้งเมื่อนำภาพบนเฟซบุ๊กผู้ต้องหาไปค้นดูตามเว็บไซต์ต่างๆ ก็ไม่พบ จึงเชื่อว่าเป็นตัวจริงเช่นกัน จากนั้นก็ได้พูดคุยกันเรื่อยมา
นายจินดา กล่าวต่อว่า จนกระทั่งเดือนมิถุนายน ผู้ต้องหาบอกให้ตนซื้อเสื้อผ้าออนไลน์ ราคา 445 บาทหน่อย ตนมองว่าน่าจะเป็นการลองใจจึงสั่งซื้อไปให้ โดยระหว่างที่พูดคุยกัน ตนพยายามขอวีดิโอคอล เเต่สาวรายนี้ไม่ยอม ก่อนดึงตนเข้าไลน์กลุ่มครอบครัว และผู้ต้องหาได้บอกว่าเป็นลูกสาว ผบ.ทบ. มียศเป็นหม่อม ผู้ต้องหายังอ้างว่า แม่จะเอาบ้านเข้าจำนอง แต่ขาดเงินอีก 6 หมื่นบาท และขอเงินค่าเทอมอีก 20,550 บาท ตนก็โอนให้เบ็ดเสร็จในช่วงระยะเวลาที่คุยกัน 1 เดือน ตนโอนเงินให้ผู้หญิงคนนี้ไปเเล้วกว่า 150,000 บาท
"ผมเริ่มผิดสังเกต หลังจากได้สอบถามกับพนักงานที่ส่งของให้บ้านผู้ต้องหาเนื่องจากมักจะสั่งซื้อของไปส่งเป็นประจำว่า บุคคลที่มารับของเป็นอย่างไร ก่อนจะทราบว่าเป็นคนผิวคล้ำรูปร่างท้วม จนความจริงปรากฎเมื่อปลายเดือนมิถุนายน ผมจึงพยายามขอเงินคืน แต่หญิงรายนี้ก็โอนเงินให้คืนเพียง10,000บาท ทั้งที่ตกลงว่าจะคืน 130,000 บาท ผมจึงตัดสินใจเข้าเเจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเกิดจากความสะเพร่าของตัวเองด้วยเช่นกัน" นายจินดาระบุ
ด้านพ.ต.ท.เชาวฤทธิ์ กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีว่า พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยขณะนี้ได้รวบรวมหลักฐานเป็นเลขบัญชีธนาคาร 4 เล่มของคนร้าย พร้อมตรวจสอบทั้งอีเมล์ ไลน์ และเฟซบุ๊กที่ใช้ติดต่อกับคนร้าย โดยได้ออกหมายเรียกครั้งแรกไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถออกหมายจับได้ เพราะผู้เสียหายไม่เคยพบหน้าคนร้ายมาก่อน จึงไม่สามารถยืนยันตัวตนบุคคลได้ชัดเจน