'อนุทิน' ลั่น เม.ย.63 เริ่มค่าตอบแทน 'อสม.' ล็อตแรกคาดจ่าย 8,000 คน ต.ละ1คน
"อนุทิน" ลั่น เม.ย.63 เริ่มค่าตอบแทน "อสม." 2.5 พันบาท เล็งล็อตแรกจ่ายตำบลละ 1 คนก่อน รวม 8 พันคนทั่วประเทศ เผยไม่ของบฯ เพิ่ม ใช้เงินค่ารักษาที่จะลดลงจากปชช.สุขภาพดีขึ้น ไม่คืนงบฯ รัฐใช้เป็นค่าตอบแทนอสม.
เมื่อวันที่ 8 ส.ค.62 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวในการเป็นประธานปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ปีงบประมาณ 2562 ซึ่งมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทั่วประเทศเข้าร่วมกว่า 1,200 คนว่า อสม.ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งทั้งนโยบายกระทรวง และนโยบายรัฐบาลก็รับทราบว่าจะต้องมีการสนับสนุนให้กิจกรรมของอสม.เป็นกำลังของกระทรวงอย่างมีคุณภาพ เพิ่มบทบาทและเพิ่มทักษะความรู้โดยใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุด ให้อสม.เป็นหมอประจำบ้านของประชาชนชาวไทยทุกคน แก้ปัญคนไข้ล้นเตียง ลดแออัดในรพ. โดยทำงานส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค โดยเน้นการออกกำลังกาย บริโภคอาหารอย่างถูกวิธี ถูกหลักโภชนาการ นอนหลับพักผ่อนเพียงพอ มีสุขภาพจิตที่ดี คนเหล่าจะไม่ค่อยเจ็บป่วย ก็จะไม่ค่อยมารพ.
นายอนทิน กล่าวอีกว่า เมื่ออสม.สามารถดำเนินการไดตามภารกิจทีมีการจัดอบรมในการเพิ่มความรุ้ความสามารถในการดูแลประชาชนในวงกว้างมากขึ้น ก็เชื่อว่าจะมีตัวชี้วัดที่เพียงพอในเรื่องการทำให้ประชาชน มีอัตราการเจ็บป่วยลดลง สุขภาพดีขึ้น ก็จะส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลลดลง เมื่องบประมาณส่วนนี้ลดลง ก็จะไม่มีการคืนงบประมาณ แต่จะนำมาเป็นค่าตอบแทนให้กับอสม. ทั้งนี้จะมีการบูรณการร่วมกับกระทรวงมหาดไทยที่เป็นผู้จ่ายเงินให้กับอสม.อยู่ในปัจจุบันเพื่อให้มีความชัดเจนว่าไม่ได้ไปขอเงินงบประมาณเพิ่ม แต่จะตามเอาเงินไปสมทบ โดยตั้งเป้าว่าจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2563
"วันนี้อสม.มีจำนวนถึง 1,040,000 คน หากเราพัฒนาตนเองพัฒนาทักษะให้เป็นหมอประจำบ้าน อสม.1 รับผิดชอบดุแลประชาชนคนละ 20-25 คนเราจะดูแลได้เกือบ 20 กว่าล้านคนแล้ว ซึ่งเชื่อว่าคนไทยไม่พร้อมใจกันป่วยจำนวนมากหรอก วันนี้ที่ระบบสาธารณสุขก้าวหน้าสามารถรับมือกับโรคอุบัติใหม่ โรคอุบัติซ้ำได้มีหมด ส่วนหนึ่งเป็น อสม. ทำให้เราไม่เคยอายใครบนเวทีนานาชาติ และการที่ประเทศไทยมีระบบสาธารณสุขที่ดี ทำให้คนภายนอกเชื่อถือ กล้าเข้ามาเที่ยว กล้าเข้ามาลงทุนกล้าเข้ามาสร้างธุรกิจ เข้ามาอยู่ในประเทศไทยสร้างงาน สร้างเงิน มีส่วนในการค้ำยันเศรษฐกิจที่ดีให้ประเทศ ขอยืนยันว่าตนรับฟังทึกเสียงของอสม. แล้วนำกลับไปคิด ไปหาวิธีปฏิบัติให้เกิดขึ้นจริง และที่กระทรวงต้องการจริงๆ คือการให้อสม.ได้รับค่าตอบแทน สวัสดิการที่ดี" นายอนุทินกล่าว
ด้านนพ.สำเริง แหยงกระโทก ว่าที่ผู้ช่วยรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ภายในเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้ จะมีการเริ่มอบรม พัฒนาศักยภาพอสม. 8 หมื่นคนทุกหมุ่บ้าน หมู่บ้านละ 1 คน โดยพัฒนา 8 เรื่องสำคัญที่เชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่ลดการเจ็บป่วยของประชาชนได้ อาทิ การสร้างแกนนำสาธารณสุขครอบครัว การป้องกันโรคไข้เลือดออก อุบัติเหตุ การสร้างเสริมสุขภาพ การออกกำลังกาย การใช้เครื่องมือในการส่งต่อผู้ป่วย และการบริหารจัดการต่างๆ เป็นต้น ซึ่งคาดว่าภายในเม.ย. 2563 จะสามารถประเมินอสม.ที่เข้ารับการอบรมแล้วตำบลละ 1 คน รวม 8,000 คน ว่าทำงานได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่ และตามความสามารถ โดยจะมีอาจาย์จากมหาวิทยาลัยมาทำการประเมินและหากผ่านก็จะได้รับเงินค่าตอบแทน 2,500 บาทต่อเดือนตามี่พรรคภูมิใจไทยหาเสียงไว้ ซึ่งจะเห็นว่าขั้นตอนารดำเนินการไม่ต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติม แต่เป็นการใช้เงินจากการที่ทำให้คนไทยสุขภาพดีขึ้น