นักช้อปแดนมังกรเมินค้าปลีกญี่ปุ่น

เว็บไซต์นิกเกอิ เอเชียน รีวิว รายงานวานนี้ (10 ส.ค.) ว่า “มัตสึโมโตะ คิโยชิ โฮลดิ้งส์” ผู้ดำเนินการร้านขายยาชื่อดังรายงานผลกำไรสุทธิลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีครึ่ง ช่วงไตรมาสเดือน เม.ย.-มิ.ย. โดยร่วงไป 2% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 6,500 ล้านเยน

ขณะที่ยอดขายปลอดภาษีของบริษัทดังกล่าวภายใต้โครงการยกเว้นภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของรัฐบาลญี่ปุ่น อยู่ในระดับทรงตัว หลังเพิ่มขึ้น 34% ระหว่างเดือน เม.ย.-มิ.ย. 2561

มัตสึโมโตะ คิโยชิ ระบุว่า ต้นทุนการเดินทางที่สูงขึ้นเป็นปัจจัยหลัก ซึ่งเป็นผลจากเงินหยวนที่อ่อนค่าลง ค่าเงินหยวนเฉลี่ยอยู่ที่ 16 เยนในไตรมาสที่แล้ว เทียบกับ 17 เยนในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

ข้อกำหนดของรัฐบาลปักกิ่งที่ให้ผู้ค้าปลีกออนไลน์ทุกรายลงทะเบียนกับรัฐบาลและเสียภาษี ทำให้ธุรกิจที่ซื้อสินค้าในญี่ปุ่นสำหรับไปขายต่อในตลาดออนไลน์ในจีนพากันเมิน

ยอดซื้อของบรรดานักขายต่อเหล่านี้ของเชนร้านขายยา “ซันดรัก” ลดลงครึ่งหนึ่งเทียบกับปีที่แล้วในช่วง 3 เดือนนับถึง มิ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่ยอดขายตรงของยาและเครื่องสำอางที่เคยคึกคักก่อนหน้านี้ก็ร่วงลงเช่นกัน

ยอดขายรวมที่จำหน่ายให้นักท่องเที่ยวต่างชาติของผู้ผลิตเครื่องสำอาง 4 รายสำคัญของญี่ปุ่นลดลง 15% ในไตรมาสที่ผ่านมาเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

“โพลา ออร์บิส โฮลดิ้งส์” ได้ปรับลดคาดการณ์รายได้สำหรับปี 2562 ผลจากยอดขายที่ย่ำแย่ของอาหารเสริมบำรุงผิวแบรนด์ “อินเนอร์ ล็อก” ของตน ทั้งนี้ ยอดขายที่จำหน่ายให้นักท่องเที่ยวต่างชาติของโพลา ออร์บิสดิ่ง 20% ในไตรมาสเดือน เม.ย.-มิ.ย. เทียบกับที่เคยเพิ่มขึ้น 11% ในปีที่แล้ว

ขณะที่ “โคเซ่” เผยว่า ความต้องการจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนญี่ปุ่น ลดลง 17% นับเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 9 ไตรมาส และพลิกผันอย่างหนักจากที่เคยเพิ่มขึ้น 77% ในปีที่แล้ว ส่วนการเติบโตยอดขายของ “ฟังก์เคล” เซ็กเมนท์นี้ ชะลอตัวลงจาก 122% มาอยู่ที่15% เท่านั้น

บริษัทอิเซตัน มิตสึโคชิ โฮลดิ้งส์ ผู้ดำเนินการร้านขายยา มียอดขายปลอดภาษีเติบโตชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 1% ท่ามกลางยอดขายที่ลดลงจากบรรดานักขายต่อ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมียอดขายเพิ่มขึ้นระดับปานกลาง 3% ในสาขาเรือธงที่กินซ่า ซึ่งเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ

แนวโน้มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวมีแต่จะซบเซาลงเรื่อย ๆ เงินหยวนอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำที่สุดในรอบ 3 ปีมาอยู่ที่ประมาณ 15 เยน และความขัดแย้งระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้เสี่ยงที่จะทำให้ธุรกิจจากประเทศที่เป็นแหล่งสนับสนุนการท่องเที่ยว ลดจำนวนลง