Sideway

Sideway

Trading Buy หุ้นแนะนำ เก็งกำไรระยะสั้น

สรุปภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้

ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบ 1666 – 1676 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1671.22 จุด +1.16 จุด +0.07% ปริมาณการซื้อขาย 4.67 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มโรงพยาบาล +1.9% พลังงาน +0.63% และนำลงโดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ -2.27% ไฟแนนซ์ -0.83%

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เรามีมุมมอง Neutral และคาดดัชนีฯ Sideway แนวต้าน 1680 / 1685 จุด แนวรับ 1660 / 1655 จุด ลุ้นผลประชุมอีซีบีว่าจะมี Surprise หรือ Shock ตลาด (ตลาดคาดลดดอกเบี้ย 0.1-0.2% และออกมาตรการ QE2) และรอท่าทีของปธน.ทรัมป์ หลังมีข่าวจีนเสนอให้ยกเลิกการเก็บภาษีสินค้านำเข้าแลกกับจีนจะเพิ่มการซื้อสินค้าสหรัฐฯ

ส่วนปัจจัยที่ต้องจับตาวันนี้ คือ สหรัฐฯ-สัมมนาเรื่องนโยบายการเงิน โดยผู้ว่าธนาคารกลางอังกฤษและอดีตรมต.สหรัฐฯ Robert Rubin, APPLE เปิดตัว Iphones ใหม่, จีน-CPI เดือน ส.ค.

ประเด็นสำคัญวันนี้

USA: ตลาดหุ้นปิดคละ&นํ้ามันดิบขึ้นต่อ: DJ +38.05 จุด +0.14% S&P500 -0.01% Nasdaq -0.19% รอลุ้นผลประชุมเฟด ส่วนนำ้ มันดิบขึ้น ต่อ WTI +USD1.33 ปิด USD57.85/บาร์เรล Brent +USD1.05 ปิด USD62.59 บาร์เรล หลังรมต.พลังงงานซาอุฯ คนใหม่ ยืนยันทำตามนโยบายเดิม เน้นลดการผลิต เพื่อสนับสนุนราคา

ทองคำ&ค่าระวางเรือร่วงต่อเป็นวันที่ 3: ทองคำปิดที่ 1511.1/ออนซ์ -USD4.4 หลังยิลด์พันธบัตรัฐบาลสหรัฐฯ กลับมาฟื้นตัว 6bps เป็น 1.611% ส่วนค่าระวางเรือปิดลบเป็นวันที่ 3 อีก 40 จุด ปิดที่ 2422 จุด

UK: สภาคว่ำญัตติยุบสภา เพื่อเลือกตั้งใหม่ครั้งที่สองของนายกฯจอห์นสัน โดยมีเสียงโหวตเพียง 293 เสียง (ต่ำกว่า 434 เสียง) ทั้งนี้ รัฐสภาอังกฤษจะพักสมัยประชุมสภาก่อนเปิดใหม่วันที่ 14 ต.ค.

ECB: สมาชิกอีซีบีมีความเห็นต่างเรื่อง QE2 โดยประธานธนาคารกลางฝรั่งเศสและเอสโตเนีย มีความเห็นคล้ายกับของเยอรมนี ที่ไม่อยากให้ออกมาตรการ QE2 ซึ่งแตกต่างจากความเห็นของประธานอีซีบี ดรากี้ ที่เคยพูดไว้ในช่วงการประชุมกลางปีที่ผ่านมา ขณะที่ตลาดคาดว่าอีซีบีจะลดอัตราดอกเบีย้ 10-20 bps พร้อมออกมาตรการ QE2

เยอรมนี: ส่งออกเดือน ก.ค. ดีกว่าคาด +0.7% MoM (คาด -0.5%MoM) นำเข้า -1.5% MoM (Vs คาด -3% MoM) ทำให้ดุลการค้าเกินดุล 2.02 หมื่นล้านยูโร (Vs เดือน มิ.ย. เกินดุล 1.8 หมื่นล้านยูโร) สะท้อนเศรษฐกิจเยอรมนีอาจจะสามารถต้านทานต่อข้อพิพาทการค้าและ Brexit ได้

ไทย: ภาษีนํ้าหวาน: ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2019 เป็นต้นไป กรมสรรพสามิตปรับอัตราภาษีน้ำหวานเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันได โดยหากความหวานเกิน 14 กรัม แต่ไม่เกิน 18 กรัม เพิ่มเป็น 3 บาท/ลิตร และเกิน 18 กรัมขึ้นไป เพิ่มเป็น 5 บาท/ลิตร (จากปัจจุบัน 1 บาท/ลิตร) ส่งผลให้เครื่องดื่มที่มีความหวานเกินกำหนดต้องเสียภาษีมากขึ้น ทั้งนี้ผู้ประกอบการได้มีการปรับขึ้น ราคาขายไปตั้งแต่กลางปี เพื่อรองรับมาตรการนี้ไปบ้างแล้ว

กลยุทธ์: Trading Buy หุ้นแนะนำ เก็งกำไรระยะสั้น

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: TASCO BEM COM7

             หุ้นโมเมนตัมบวก: BCPG BGRIM BDMS M PRM AMA NOBLE    ลบ: TRUE DTAC DOHOME EPCO SAPPE DELTA

             Derivatives: แนะเปิด Short S50U19C1100 และ Short S50U19P1100 (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)