โดรนกบฏเยเมนถล่มโรงกลั่นน้ำมันซาอุฯ

สถานีโทรทัศน์อัลมาซีราห์ของกลุ่มฮูตี รายงานว่า สมาชิกกลุ่มได้ปฏิบัติการโจมตีครั้งใหญ่โดยใช้โดรน 10 ลำ พุ่งชนโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่งของบริษัทอารามโก รัฐวิสาหกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของรัฐบาลริยาด ในเมืองอับคิกและเมืองคาริส ซึ่งมีบ่อน้ำมันใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ ทางตะวันออกของซาอุดีอาระเบีย

ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน กระทรวงมหาดไทยซาอุดีอาระเบียแถลงว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอารามโกเข้าควบคุมไฟไหม้ที่โรงกลั่น 2 แห่งตั้งแต่เวลา 04.00 น.วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 08.00 น.วานนี้ตามเวลาในไทย อันเป็นผลจากการถูกโดรนพุ่งชน

อย่างไรก็ตาม ริยาดไม่ได้เปิดเผยว่ามีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต หรือการทำงานของโรงกลั่นถูกกระทบหรือไม่

กลุ่มฮูตีได้ก่อเหตุร้ายข้ามพรมแดนเข้ามาในซาอุดีอาระเบียหลายครั้ง โดยได้ส่งโดรนพุ่งชนบ่อน้ำมันแห่งหนึ่งเมื่อเดือนที่แล้ว และส่งโดรนพุ่งชนสถานีบริการน้ำมัน 2 แห่งเมื่อเดือน พ.ค. ซึ่งทั้ง 2 ครั้งทำให้ไฟไหม้แต่ไม่กระทบการผลิตน้ำมัน

จนถึงขณะนี้ ทางการซาอุดีอาระเบียได้ตั้งทีมสืบสวนเหตุโจมตีซึ่งยังไม่มีการระบุว่าเป็นฝีมือของฝ่ายใด ขณะที่โดยรอบโรงกลั่นน้ำมันทั้ง 2 แห่งมีเจ้าหน้าที่ตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยเข้มงวด และไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปใกล้

วิกฤตการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มทวีความตึงเครียดนับตั้งแต่มีเรือบรรทุกน้ำมันหลายลำถูกโจมตีในอ่าวเปอร์เซียเมื่อช่วงเดือน มิ.ย. และ ก.ค. ซึ่งสหรัฐและอังกฤษโทษว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลัง ขณะที่เตหะรานยังคงปฏิเสธความเกี่ยวข้อง

รัฐบาลอิหร่านให้การสนับสนุนกบฏฮูตีในเยเมน ซึ่งเคยส่งโดรนข้ามไปโจมตีบ่อน้ำมันชายบาห์ของซาอุดีอาระเบียเมื่อเดือนที่แล้ว รวมถึงสถานีสูบน้ำมันซาอุดีอาระเบียอีก 2 แห่งในเดือน พ.ค. โดยเหตุโจมตีทั้ง 2 ครั้งแม้จะก่อให้เกิดเพลิงไหม้ แต่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันของริยาด

บริษัทอารามโกเตรียมเดินหน้าขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ภายในปีนี้ โดยเป็นอีกหนึ่งความพยายามของมกุฎราชกุมารโมฮัมมัด บิน ซัลมาน ผู้ปกครองซาอุดีอาระเบียโดยพฤตินัยและองค์รัชทายาทของสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน ที่จะปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจให้มีความหลากหลายและลดการพึ่งพาน้ำมัน

นายอามิน นาสเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) อารามโก เผยเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า อารามโกพร้อมจะทำไอพีโอ 2 ครั้ง ซึ่งรวมถึงการจดทะเบียนในต่างประเทศ “ในเร็ว ๆ นี้”