“ทรัมป์”สั่งปล่อยน้ำมันคลังสำรองยุทธศาสตร์
หลังเกิดเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในซาอุดิอาระเบีย2แห่งจนส่งผลให้การผลิตน้ำมันของซาอุฯลดลง
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ มีคำสั่งให้ปล่อยน้ำมันจากสำรองทางยุทธศาสตร์ (เอสพีอาร์) หลังจากเกิดเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในซาอุดีอาระเบียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความในวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐว่า “เมื่อพิจารณาถึงเหตุการณ์โจมตีโรกลั่นน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน ผมจึงได้สั่งการให้ปล่อยน้ำมันออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ หากพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเป็น โดยให้ปล่อยในปริมาณที่มีการกำหนด และพอเพียงต่อการรักษาอุปทานน้ำมันในตลาดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม”
ทั้งนี้ ได้เกิดเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันสองแห่งในเขตอับกออิกและคูราอิสด้วยโดรน จนเป็นเหตุให้เพลิงลุกไหม้ โดยโรงงานทั้งสองแห่งเป็นของบริษัทซาอุดี อารัมโก
สำหรับแหล่งน้ำมันอับกออิก ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองดาห์รานไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 60 กม.ในอีสเทิร์น โพรวินซ์ของซาอุดีอาระเบีย ประกอบด้วยโรงงานแปรรูปน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ขณะที่แหล่งน้ำมันคูราอิส ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 190 กม.นั้นเป็นแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของซาอุดีอาระเบีย
ด้านเจ้าชายอับดุลาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดีอาระเบีย เปิดเผยว่า เหตุโจมตีดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันและก๊าซ 5.7 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่ตัวเลขล่าสุดที่โอเปกเปิดเผยเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า ผลผลิตทั้งหมดของซาอุฯ อยู่ที่ 9.8 ล้านบาร์เรล/วัน เท่ากับว่าผลผลิตจะหายไปถึงราวครึ่งหนึ่ง หรือคิดเป็น 5% ของอุปทานน้ำมันทั่วโลก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-“ทรัมป์”เล็งปลดรมว.พาณิชย์เซ่นพ่ายสำรวจสำมะโนประชากร
-“ทรัมป์”ยืนยันสหรัฐปลิดชีพลูกชายบินลาเด็น
-'ทรัมป์' โวดาวโจนส์อาจพุ่งหมื่นจุดหากไม่มีสงครามการค้า
-“ทรัมป์”ยืนยันเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนตามแผน