แจ้ง 3 ข้อหาหนัก ตำรวจสำโรงใต้ชักปืนขู่ อส.ขณะตั้งด่าน

แจ้ง 3 ข้อหาหนัก ตำรวจสำโรงใต้ชักปืนขู่ อส.ขณะตั้งด่าน

แจ้ง 3 ข้อหาหนัก ตำรวจสำโรงใต้ชักปืนขู่ อส.ขณะตั้งด่าน

จากกรณีเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ที่ 27 กันยายน 2562 เฟซบุ๊กของ "เฮียขับรถ" ได้มีการโพสต์คลิป ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมด้วยอาสาสมัครช่วยเหลือเจ้าพนักงานกำลังตั้งด่านตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายอยู่ที่บริเวณถนนพุทธรักษา ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ และได้มีภาพชายคนหนึ่งซึ่งรถยนต์กระบะสีบอร์นเงิน ทะเบียน ฏฉ 1160 กรุงเทพมหานคร เข้ามาจอดเลยด่านไปเล็กน้อย ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะถืออาวุธปืนลงมาจากรถมาโวยวายกับอาสาสมัครคนดังกล่าว พร้อมทั้งใช้ปืนที่ถืออยู่ในมือกวัดแกว่งไปมาเป็นที่น่าหวาดเสียวยิ่งนัก โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในเครื่องแบบจำนวนหลายคนได้เข้าพยายามห้ามปราม ต้องในเวลาอยู่พักใหญ่ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวออกไป โดยมีข้อความท้ายคลิปว่า "โปรดใช้วิจารณญาณในการชม เมื่อตำรวจสำโรงใต้โดนตำรวจเมืองปากน้ำเรียกตรวจ เหตุเกิดพื้นที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ เมื่อคืนนี้"

หลังคลิปดังกล่าวถูกแชร์ออกไปอย่างรวดเร็ว ทำให้มีชาวเน็ตออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม และมีการชักปืนออกมาขู่เจ้าหน้าที่อาสาต่อหน้าตำรวจ เหตุใดจึงไม่มีการจับกุม เพราะว่าผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจหรือไม่จึงปล่อยไป ภายหลังเกิดเหตุ ร.ต.อ.สมพร ปาเส รอง สวป.สภ.เมืองสมุทรปราการ ทำหน้าที่หัวหน้าด่าน ได้ทำหนังสือรายงานข้อเท็จจริงที่เกิดเหตุรายงาน ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น

จนกระทั่งในช่วงหัวค่ำของวันนี้ พ.ต.อ.ประเสริฐ บัวขาว ผกก.สภ.สำโรงใต้ สมุทรปราการ ในฐานะผู้บังคับบัญชา ได้นำตัวตำรวจนายดังกล่าวซึ่งมียศ "ร้อยตำรวจเอก" พร้อมด้วยอาวุธปืนและรถยนต์กระบะคันที่ปรากฏในคลิป เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ฐานุพงศ์ แสงซื่อ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อทำการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยภาพจากคลิปเป็นหลักฐาน โดยใช้เวลาในการสอบสวนอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมง

 

พ.ต.อ.ฐานุพงศ์ แสงซื่อ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้กล่าวว่า สำหรับในเรื่องดังกล่าว จากการสอบถามผู้ใต้บังคับบัญชาทราบว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ที่ 27 กันยายน ช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองสมุทรปราการ กำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัดสิ่งผิดกฎหมายอยู่บนถนนพุทธรักษา อยู่ ๆ ชายคนดังกล่าวได้ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวเข้ามาในด่าน ก่อนที่จะเหยียบกรวยยางที่ตั้งแนวด่านตรวจจนเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถ อาสาสมัครช่วยเหลือเจ้าหน้าที่งานที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้ส่งสัญญาณให้รถหยุดรถ จนถูกล้อรถเหยียบเข้าที่เท้า จึงได้ใช้มือทุบเข้าที่หน้ารถ ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะเดินถือปืนลงมาจากรถและก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งจากพฤติกรรมในคลิปจะเห็นว่าชายคนดังกล่าวได้มีการชักอาวุธปืนกวัดแกว่งไปมาจริง ซึ่งเป็นหลักฐานที่ชัดเจน

เบื้องต้นจึงได้มีการแจ้ง 3 ข้อกล่าวหา คือ ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน พร้อมทั้งทำการตรวจยืดอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวซึ่งเป็นขนาด 11 มม. เอาไว้ตรวจสอบ ซึ่งในเบื้องต้นเจ้าตัวก็ไม่ได้ปฎิเสธอะไร

"ในส่วนที่ไม่จับกุมในขณะนั้นคนพกปืนในลักษณะนั้นทุกคนก็รู้กันหมดแล้ว ร้อยเวรเขาก็เลยไม่อยากให้เกิดเหตุรุนแรงและก็รู้แล้วว่าเป็นใคร เขาก็มาประมวลเรื่องแล้วก็ร้องทุกข์กล่าวโทษได้ เพราะถ้าไปยื้อตรงนั้น และถ้าเกิดชั่วโมงนั้นไปยื้อจะจับกุมและเกิดการขัดขืนและมีการยิงกันเกิดขึ้น เพราะมันมีอาสาที่เป็นผู้หญิงอยู่ด้วยร้อยเวรก็เลยตัดสินใจพยายามพูดให้ใจเย็นไม่ใช่ว่าปล่อยแล้วไม่ดำเนินการอะไร เขารายงานผู้บังคับบัญชาและทำเรื่องประมวลมาและแจ้งพนักงานสอบสวนให้ร้องทุกกล่าวโทษเลย เพียงแต่ว่าคนที่ไม่รู้ก็ส่งคลิปออกไป ทุกอย่างเสร็จตามขั้นตอนหมดแล้ว โดนทั้งอาญาและทางวินัย ส่วนในเรื่องตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ต้องเป็นโรงพักต้นสังกัดของผู้ก่อเหตุเป็นคนตั้ง และทางกองบังคับการตำรวจภูธรก็ตั้งขึ้นมาสอบข้อเท็จจริงด้วยเช่นกัน มันคนละส่วนกัน เพราะส่วนของตนดำเนินการทางอาญาแล้ว ส่วนเรื่องวินัยต้องขึ้นอยู่กับต้นสังกัดว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป"