จ่อฟันโทษ วินัย-อาญา 'ร.ต.อ.หัวร้อน' ชักปืนขู่อส.
จ่อฟันโทษ วินัย-อาญา "ร.ต.อ.หัวร้อน" ชักปืนขู่อส. อ้างว่าทำรถของตนเสียหาย
เมื่อวันที่ 28 ก.ย.62 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีมีคลิปเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศ "ร.ต.อ." ชักปืนขู่อาสาตำรวจ อ้างว่าทำรถของตนเสียหาย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด สภ.สำโรงใต้ สมุทรปราการ โดยเหตุเกิดบนถนนพุทธรักษา ต.แพรกษา อ.เมือง จว.สมุทรปราการ ว่าได้รับรายงานจาก ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ ว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า
เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 62 เวลาประมาณ 02.30 น.ร.ต.อ.สมพร ปาเส รอง สวป.สภ.เมืองสมุทรปราการ กับพวกพร้อมด้วยอาสาสมัครตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันเหตุอยู่บริเวณถนนพุทธรักษา หน้าจุดบริการประชาชน ต.แพรกษา มีร.ต.อ.สมยศ ไกรกิจธนโรจน์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.สำโรงใต้ ซึ่งแต่งกายนอกเครื่องแบบ ขับขี่รถยนต์ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการเรียกให้หยุด เนื่องจากใต้ท้องรถมีกรวยยางติดอยู่ ทำให้ ร.ต.อ.สมยศไม่พอใจ จึงลงจากรถต่อว่า ร.ต.อ.สมพรและอาสาสมัครด้วยถ้อยคำหยาบคาย พร้อมนำอาวุธปืนออกมาขู่ร.ต.อ.สมพรกับพวก จึงห้ามปราบ ร.ต.อ.สมยศจึงหยุดและกลับไป หลังเกิดเหตุ ร.ต.อ.สมพรเดินทางไปที่สภ.เมืองสมุทรปราการ และร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ ร.ต.อ.สมยศ ทางพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ต่อมา เวลา 21.00 น. ของวันเดียวกัน ร.ต.อ.สมยศ เข้าพบพนักงานสอบสวนพื่อรับทราบข้อกล่าวหาข้อหา ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ , ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่หรือได้เพราะกระทำการตามหน้าที่ ,พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุสมควร
ขณะนี้ อยู่ระหว่างต้นสังกัดที่เกี่ยวข้องดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ตามระเบียบ หากการตรวจสอบพบว่ามีความผิดจริง จะมีการเอาผิดทั้งวินัย และถูกดำเนินคดีอาญาตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ก่อเหตุ ได้สั่งการให้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยจะดำเนินการทั้งทางอาญาและวินัยอย่างเด็ดขาด ไม่มีการให้ความช่วยเหลือ ว่ากันไปตาม ข้อเท็จจริงพยานหลักฐานที่ปรากฎ ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้กำชับและมีข้อสั่งการไปยังกองบัญชาการทุกภาคส่วน ผู้บังคับการ ผู้กำกับ หน.หน้าหน่วยในทุกต้นสังกัดทุกพื้นที่ ให้มีการควบคุม ดูแลความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ ทั้งเวลาราชการและนอกเวลาราชการ ตามคำสั่งที่ 1212/2537 ในการ กวดขัน กำกับ ดูแล สอดส่องความประพฤติและพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจภายใต้การปกครองบังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายระมัดระวังกิริยามารยาท ในการแสดงออกและขอเตือนเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย อย่าลุแก่อำนาจที่ตนมี
หากพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความพฤตินอกรีต ไปเรียกรับเงินทอง เรียกรับผลประโยชน์อื่นใด หรือแม้กระทั่งใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ โดยให้ดำเนินการตรวจสอบกระทำด้วยความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งหากผลการตรวจสอบพบว่าได้กระทำผิดจริงให้ดำเนินทางวินัยและอาญา อย่างเด็ดขาด
ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการลงทัณฑ์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่กระทำในลักษณะนี้ทั้ง ไล่ออก ปลดออก ให้ออก หากความผิดปรากฎชัดเจน ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศมาโดยตลอด ไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เสื่อมเสียชื่อเสียงขององค์กรและเสียกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดี