ครม.อนุมัติอีก 116 ล้าน ผุดแคมเปญ '100 เดียวเที่ยวทั่วไทย-วันธรรมดาช็อคโลก'

เมื่อวันที่ 1 ต.ค.62 นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบงบประมาณ 116 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ภายใต้โครงการถึงเวลาทัวร์ให้ทั่วไทย เป็นมาตรการเสริมมาตรการชิมช้อบใช้ โดยดำเนิน 2 มาตรการคือ 1.มาตรการร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย วงเงินเพื่อส่งเสริมโครงการ 63.5 ล้านบาท โดยมาตรการนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะร่วมกับผู้ประกอบการ เช่น โรงแรม ที่พักสายการบิน สปา และแหล่งบันเทิงเพื่อการท่องเที่ยวอื่นๆ เพื่อร่วมจัดโปรโมชั่น ขายสินค้าท่องเที่ยวในราคา 100 บาท จำนวน 40,000 รายการ ระหว่างเดือน ต.ค.-ธ.ค.2562 โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมแพ็คเกจนี้สามารถดำเนินได้ทางOfficial ไลน์ ของ ททท. เพื่ออรับสิทธ์ในลิงค์ สู่หน้าการซื้อแพ็คเกจ สามารถซื้อได้ 1 คนต่อ 1 รายการ กลุ่มเป้าหมายคนกลุ่มเจนวายและเจนเอ็กซ์ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อปานกลาง โดยจะทำโปรโมชั่นในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีนี้โดยใช้ในวันธรรมดา เช่นในวันที่ 10 เดือน 10, วันที่ 11 เดือน 11, วันที่ 12 เดือน 12 ในการเปิดขายแพคเกจท่องเที่ยว

2.มาตรการวันธรรมดาราคาช็อคโลก วงเงินเพื่อส่งเสริมโครงการ 52.5 ล้านบาท มาตรการนี้จะนำสินค้ากลุ่มหรูหรา (Luxury) ได้แก่ โรงแรม ที่พัก บริษัทนำเที่ยวสายการบิน แบรนด์สินค้าชั้นนำ ศูนย์การค้า สปา โรงพยาบาล ร้านอาหาร ร้านจิวเวลรี่ สวนสนุก และบริการด้านการท่องเที่ยว ลดราคา 70% โดย ททท.จะร่วมกับเอกชน นำสินค้าต่างๆมาจัดรายการ ส่งเสริมการขายในราคาสุดพิเศษ ในวันธรรมดา ผ่านการจัดทำ Mini site เว็บไซต์ Mobile Platform และกลไกด้านการตลาด ผ่านระบบ ออนไลน์ โดยโครงการฯนี้จะใช้เงินเพื่อทำประชาสัมพันธ์วงเงิน 52.5 ล้านบาท

ทั้งนี้ ททท.ได้รายงาน ครม.รับทราบว่ามาตรการท่องเที่ยวนี้จะช่วยให้เกิดการท่องเที่ยวในประเทศ ในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวและค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องจนส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยมาตรการนี้จะช่วยจูงใจการท่องเที่ยวในประเทศไทยได้มากขึ้น โดยกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ การจับจ่ายซื้อสินค้า ช่วยให้ไทยยังรักษาอันดับประเทศที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวติดอันดับ 1 ใน 6 ของโลก และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวรวมเพิ่มขึ้น 10% รวมรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 3.3 ล้านล้านบาท เพื่อสร้างรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทยมากขึ้น