'ลูกหนี้'อ่วมพิษเศรษฐกิจ ธปท.ร่อนจดหมายเวียนกำชับแบงก์อุ้มรายที่มีศักยภาพดี
“แบงก์ชาติ” ร่อนหนังสือเวียนถึงสถาบันการเงิน วอนช่วยปรับโครงสร้างหนี้แก่ลูกหนี้ที่พอมีศักยภาพแต่เริ่มมีสัญญาณผิดนัดชำระ ชี้การปรับหนี้เชิงป้องกัน ช่วยเป็นกันชนต่อแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน หนุนธุรกิจลูกหนี้ฟื้นตัวได้เร็ว
รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ส่งหนังสือเวียนไปยังสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อซักซ้อมความเข้าใจหลักเกณฑ์และแนวนโยบายการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยสาเหตุการส่งหนังสือเวียนครั้งนี้ สืบเนื่องจากช่วงที่ผ่านมา ธปท. ได้รับข้อหารือจากผู้ประกอบการและสถาบันการเงิน เกี่ยวกับแนวนโยบายของ ธปท.ที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงบโครงสร้างหนี้ และการจัดชั้นหนี้เพื่อส่งเสริมให้มีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ตลอดจนการพิจารณาให้สินเชื่อใหม่แก่ลูกหนี้ที่ยังอยู่ในวิสัยที่จะสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างที่สถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอน เช่น สงครามการค้าโลก ที่อาจมีผลต่อการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการเป็นการชั่วคราว โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม(เอสเอ็มอี) ที่ต้องปรับตัวรับกับภาวะความผันผวนดังกล่าว
ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนให้สถาบันการเงิน ติดตามดูแลลูกหนี้อย่างใกล้ชิด และดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้ที่มีศักยภาพในการพลิกฟื้นธุรกิจได้อย่างทันท่วงที ธปท. จึงขอความร่วมมือให้ สถาบันการเงิน เร่งติดตามดูแลลูกหนี้โดยเร็ว และดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตั้งแต่ลูกหนี้เริ่มมีสัญญาณของการมีปัญหาในการชำระหนี้ แต่ยังมีโอกาสที่จะบริหารจัดการกระแสเงินสดในการชำระหนี้ของตัวเองได้ ภายหลังได้รับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้ว
สำหรับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของลูกหนี้ที่ยังไม่ด้อยคุณภาพ ธปท. ขอเรียนว่าการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในลักษณะเชิงป้องกันซึ่งสถาบันการเงินไม่มีส่วนสูญเสียจากการปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าว เช่น การขยายระยะเวลาการชำระหนี้หรือการปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้กับลูกหนี้ที่ไม่ต่ำกว่าอัตราตลาด ไม่ถือว่าเข้าลักษณะเป็นการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่มีปัญหา
ทั้งนี้ ธปท. คาดหวังว่า สถาบันการเงินจะดำเนินการให้มีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตั้งแต่ในระยะที่ลูกหนี้ยังอยู่ในวิสัยที่สามารถดำเนินธุรกิจได้ ซึ่งจะช่วยเป็นกันชนต่อแรงกดดันจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลก และส่งผลให้ลูกหนี้ที่มีศักยภาพสามารถพลิกฟื้นธุรกิจได้อย่างทันท่วงที
นางอภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารได้เข้าไปมอนิเตอร์อย่างใกล้ชิด ในช่วง 2ไตรมาสที่ผ่านมา โดยเฉพาะลูกค้าที่มีความเชื่อมโยงกับ ต่างประเทศ หรือเชื่อมโยงกับสงครามการค้า หรือจีน เพื่อเข้าไปช่วยเหลือลูกค้าอย่างทันท่วงที ก่อนที่ลูกหนี้จะมีคุณภาพหนี้แย่ลง หรือก่อนที่จะผิดนัดชำระหนี้กับแบงก์ เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะมาจากลูกหนี้ หรือคุณภาพหนี้ของแบงก์ที่อาจด้อยลงได้ ทั้งนี้ เชื่อว่าการที่ธปท.ขอให้แบงก์มีการเข้าไปช่วยเหลือลูกค้าเร็วขึ้น ใกล้ชิดมากขึ้น ก็อาจเห็นแบงก์เข้าไปช่วยลูกค้าได้เพิ่มเติม ถี่ขึ้นเร็วมากขึ้นไปอีก
ด้านนายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ปัจจุบันธนาคาร ก็มีการมอนิเตอร์ และมีระบบตรวจจับความผิดปกติของลูกค้าอยู่แล้ว โดยใช้ทั้งเทคโนโลยีในการตรวจจับ และใช้คนติดตาม เพื่อดูแลลูกค้าที่อาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆได้ ก่อนที่ลูกหนี้จะมีคุณภาพแย่ลง เช่น ระบบการตรวจจับสภาพคล่อง กระแสเงินสดของลูกค้า การทำทรานเซกชั่นของลูกค้าที่อาจปรับลดน้อยลง เหล่านี้แบงก์จะเข้าไปตรวจดู หากผิดปกติ จะส่งพนักงานหน้าบ้าน เข้าไปพูดคุยหรือช่วยเหลือลูกค้าทันที
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-“สมคิด”สั่งคลังอัดงบเฟสสองชิมช้อปใช้
-ลูกหนี้เฮ! ธปท.ถอยออกเกณฑ์คุมเพดานก่อหนี้
-'แบงก์ชาติ' ลั่นเกาะติดหนี้ครัวเรือน
-ครัวเรือนหนี้ท่วม130% ธปท.หวั่นเศรษฐกิจติดหล่ม