UOBAM โค้งท้ายปีนี้รุกเปิดบัญชีซื้อขายกองทุนออนไลน์
บลจ. ยูโอบี AUM8เดือนแตะ2.45แสนล้านบาทโต16.6% มากกว่าตลาดโต4% มั่นใจสิ้นปีนี้เข้าเป้า 2.65แสนล้านบาท โค้งท้ายปีเตรียมรุกเปิดตัว “บริการเปิดบัญชีซื้อขายกองทุนผ่านระบบอินเทอร์เน็ตรับยุคดิจิทัล ขณะที่ยังคงเป้าดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีนี้มองที่ระดับ1,750 จุด ดาวน์ไซด์จำกัด พร้อมแนะกระจายพอร์ตการลงทุนในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว
นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบลจ. ยูโอบี(ประเทศไทย) จำกัดหรือ UOBAM เปิดเผยว่าสำหรับในช่วงเดือนม.ค. – ส.ค. 2562 บริษัทมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหาร(AUM) ที่ 245,000 ล้านบาทเติบโต16.6% จากสิ้นปี2561 อยู่ที่ 210,000 ล้านบาทหรือมากกว่าภาพรวมตลาดในช่วงเดียวกันที่เติบโตเฉลี่ย4% ทำให้สิ้นปีนี้ยังมั่นใจว่ามีAUM จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่265,000ล้านบาทเติบโต26%
โดยมีปัจจัยการเติบโตมาจากลูกค้าสถาบันทั้งภาครัฐและเอกชนในกลุ่มธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนส่วนบุคคลที่มีมูลค่าAUM เพิ่มขึ้นประมาณ20,000 ล้านบาท(ณ30 ส.ค. 2562) ประกอบกับนับจากเดือนพ.ค. – ส.ค.ที่ผ่านมาได้เสนอขายกองทุนรวมใหม่อีก5 กองทุนเพื่อตอบโจทย์กับสภาวะตลาดการลงทุนปัจจุบันซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีพร้อมกันนี้บริษัทได้จัดสัมมนาอย่างสม่ำเสมอเพื่อนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ทั้งภาพรวมสถาวะตลาดการลงทุนในปัจจุบันและแนวโน้มในการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและตัวแทนซื้อขายหน่วยลงทุน(Distributor)
สำหรับในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทได้มุ่งเน้นพัฒนาแพลตฟอร์มให้บริการทางออนไลน์อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองพฤติกรรมลูกค้าในยุคดิจิทัลโดยเข้าร่วมโครงการNDID (National Digital ID) ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท. ) ซึ่งเป็นระบบที่ใช้เพื่อพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาให้บริการช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาดำเนินการเปิดบัญชีและเพื่อตอบสนองพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไปคาดว่าภายในเดือนธ.ค.นี้จะสามารถเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่‘e-account opening application’ เพื่อให้บริการทางออนไลน์ที่จะช่วยให้การเปิดบัญชีซื้อขายกองทุนเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้นและเพิ่มโอกาสขยายฐานลูกค้าโดยลูกค้าใหม่สามารถเปิดบัญชีผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแทนการยื่นเอกสารเพื่อลดปริมาณกระดาษ(Paperless) ซึ่งนับเป็นการพัฒนาแพลตฟอร์มให้บริการด้านออนไลน์อย่างต่อเนื่องหลังจากในเดือนก.ค.ที่ผ่านมาได้เปิดตัวQR Code Payment เป็นรายแรกๆในกลุ่มบลจ. โดยเป็นบริการใหม่ในระบบออนไลน์ในการรับชำระเงินค่าซื้อหน่วยลงทุนผ่านระบบคิวอาร์โค้ด(QR code) เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ลงทุนที่ใช้บริการผ่านทางเวปไซต์(Premier online) และMobile Application “UOBAM Invest”
ส่วนทางด้านมุมมองต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลกนายวนามองว่ายังคงสามารถเติบโตได้ในระดับปานกลางและมีแนวโน้มที่ขยายตัวชะลอลงเป็นผลจากภาวะสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนรวมถึงประเทศคู่ค้าอื่นๆที่ยังคงยืดเยื้อส่งผลให้ตลาดทุนมีความผันผวนสูงขึ้นโดยธนาคารกลางในประเทศต่างๆได้เล็งเห็นถึงความเสี่ยงของการเจรจาการค้าประกอบกับมีความกังวลว่าต่อการเกิดสภาวะเศรษฐกิจถดถอย(Recession) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวปรับลดลงไปต่ำกว่าพันธบัตรระยะสั้นจึงเริ่มดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน
ภาพรวมเศรษฐกิจไทยธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ได้ปรับลดประมาณการตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจ(GDP) ปี2562 ลดลงเหลือ2.8% หลังจากการส่งออกสินค้าและการใช้จ่ายภาครัฐชะลอตัวลงกว่าที่คาดไว้ประกอบกับการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มชะลอตัวส่วนการบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องแต่ยังได้รับแรงกดดันจากหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในปีนี้ยังคงมุมมองไว้ที่1,750 จุดในปีนี้และปีหน้าPE อยู่ที่15-16เท่าการเติบโตของกำไรต่อหุ้นของตลาดโดยรวมที่8-10 % โดยช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าเคลื่อนไหวในกรอบ1,600 -1,700 จุดและมีดาวน์ไซด์ค่อนข้างจำกัดที่1,550จุด ด้วยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่งและตัวเลขต่างๆของบริษัทเอกชนยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีโดยเฉพาะมูลค่าหุ้น(Valuation) ของหุ้นไทยยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับหุ้นหลักทั่วโลกรวมถึงอาจมีเม็ดเงินไหลกลับเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่อีกครั้งหากปัจจัยเสี่ยงต่างๆเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นในปีนี้
ดังนั้นบริษัทจึงมีมุมมองเชิงกลยุทธ์เน้นกระจายความเสี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท(Asset Allocation) ผ่านกองทุนรวมเพื่อลดการกระจุกตัวของพอร์ตและแนะนำลดน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงเช่นการลงทุนในหุ้นเพียงอย่างเดียวเพื่อลดผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนที่มีความผันผวนหรืออาจจะมองหาลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพสูงที่มีโอกาสเติบโตได้ในทุกภาวะเศรษฐกิจและมีกระแสเงินสดดี
อีกทั้งยังแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์ตราสารหนี้กลุ่มInvestment Grade รวมถึงลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกอาทิกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์(Property Fund), ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า(REITs) ที่มีความผันผวนต่ำกว่าการลงทุนในหุ้นแต่สามารถให้โอกาสรับอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากและการลงทุนในพันธบัตรรวมถึงมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในระยะยาวอีกด้วย