“พุทธิพงษ์” เผยยังไม่เคาะ แคนดิเดตชิง “ผู้ว่าฯกทม.” โวมีคนเก่ง เสนอตัวลงในนาม “พปชร.” เป็น 10 คน ดักคอ “พท.” ถ้าไม่ส่งสู้หวังเทคะแนน “ชัชชาติ” ไม่ง่าย
เมื่อวันที่ 11 ต.ค.62 เวลา 09.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานยุทธศาสตร์กทม. ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการสรรหาบุคคล ลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในส่วนของพรรค พปชร.นั้น ว่า ยังไม่ได้มีการประชุมคัดสรรอย่างเป็นทางการ แต่เบื้องต้นได้มีการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการกับหลายคนที่ให้ความสนใจ เนื่องจากการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในทุกครั้ง จะมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องค่อนข้างมาก ประกอบกับสถานการณ์ใกล้ๆ ในขณะนั้น คู่แข่งในแต่ละพรรค ก็จะเห็นว่ามีคนเก่ง คนดีที่เสนอตัวเข้ามาเยอะ ฉะนั้น ยุทธศาสตร์ของพรรคพปชร. จะต้องดูให้รอบคอบ แต่มั่นใจว่าพรรคจะคัดคนที่ดีที่สุด และคนที่สามารถดูแลแก้ไขปัญหาให้คนกรุงเทพฯ ให้ดีที่สุด ซึ่งเราพยายามคัดสรรอยู่ แต่ยังอยู่ในกระบวนการ ยังไม่ได้มีการสรุป
เมื่อถามว่า จะมีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ เพราะถ้าส่งผู้สมัครลงเหมือนกันก็จะเป็นการตัดคะแนนกันเอง นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า คงไปตีกรอบยาก ในเรื่องการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล เหตุผลเพราะว่ากทม. เป็นฐานคะแนนของหลายพรรคการเมือง รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นพรรคพปชร. พรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคอื่นๆ ซึ่งก็เป็นเป้าหมายของทุกพรรค ฉะนั้น การจะมาพูดคุยกัน แล้วตกลงกันว่าพรรคไหนจะส่ง หรือพรรคไหนจะไม่ส่ง ตนคิดว่าคงไม่ง่าย เพราะทุกคนก็อยากเป็นตัวแทนของคนกรุงเทพฯ
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยไม่ส่งคนลงสมัคร แต่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ลงในนามอิสระ จะมีผลกระทบหรือไม่ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ก็ต้องดู แต่ตนเชื่อว่าคนกรุงเทพฯ เข้าใจว่าการที่จะส่งหรือไม่ส่ง หรือการจะช่วยกันเพื่อเทคะแนนเสียงให้กัน ตนคิดว่าไม่ง่าย เพราะคิดว่าคนกรุงเทพฯ เข้าใจและรู้ทัน ถ้าทำแบบนี้แล้ว จะเป็นผลลบ คนกรุงเทพฯ ก็จะได้รู้ว่ามีการฮั้วกัน ช่วยกันลงอิสระ แต่ที่จริงแล้วก็เทคะแนนให้กัน ถ้าเป็นแบบนี้จะเป็นผลลบต่อการเลือกตั้งของเขา เพราะคนกรุงเทพฯรู้ทัน และอาจจะให้บทเรียนตรงกันข้ามด้วยซ้ำ
เมื่อถามย้ำว่า จะมีผลต่อพรรคพปชร.หรือไม่ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ก็ต้องดู เพราะทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับพี่น้องชาวกรุงเทพฯ จะเป็นคนตัดสิน แต่เชื่อว่าหากทำอะไรตรงไปตรงมา หาคนที่ดีที่สุด และคนเก่งที่สุด แล้วมาสู้กัน เพื่อเป็นทางเลือกให้แก้คนกรุงเทพฯ ตนคิดว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจ แต่ถ้ามีการใช้เทคนิคแล้วโอนคะแนนให้กัน อย่างเช่น การไปลงอิสระ แต่พรรคตัวเองไม่ส่ง ก็คิดว่าคนกรุงเทพฯ จะรู้ทันและเข้าใจ
เมื่อถามอีกว่าในส่วนของพรรคพปชร. มีคนที่จะสู้กับนายชัชชาติได้หรือไม่ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า “มีเยอะ มีคนดี คนเก่งที่สนใจมาทำการเมือง มาเป็นตัวแทนแก้ไขปัญหาให้กับคนกรุงเทพฯ ประมาณ 10 คนที่เสนอตัวและอยากลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. มีทั้งคนในพรรค และนอกพรรค แต่มีปัจจัยเยอะทั้งในเรื่องของคู่แข่ง ก็ต้องดูว่าคนไหนเหมาะสม และเราต้องคัดคนที่ดีที่สุด เพราะรู้ดีว่าคนกรุงเทพฯ คาดหวังกับการเปลี่ยนแปลง และมีหลายเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไข และมีปัญหาที่เกิดขึ้นใหม่ เช่น ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือพีเอ็ม 2.5 ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาน้ำท่วม และปัญหาขยะ และปัญหาเหล่านี้ เราต้องการคนที่เข้าใจ กล้าตัดสินใจและรู้แนวทางการแก้ปัญหา ซึ่งครั้งนี้จะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่คนกรุงเทพฯ จะได้ตัดสินใจได้เลือกคนมาแก้ไขปัญหาให้ถูก