'อัจฉริยะ' พาพริตตี้สาว แจ้งความปอท.เอาผิด 'เสี่ยท็อป' หลอกแต่งงาน
"อัจฉริยะ" พาพริตตี้ดาริน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน ปอท. แจ้งความเอาผิด "เสี่ยท็อป" หลอกแต่งงาน
เมื่อวันที่ 11 ต.ค.62 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พา น.ส.ดาริน หรือ ดา พริตตี้ เจ้าสาวผู้เสียหายที่ถูก “เสี่ยท็อป” หลอกแต่งงานจนเป็นหนี้งานแต่ง 3.5 ล้านบาท เข้าพบ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท., พ.ต.ท.กฤช เสนียวงศ์ ณ อยุธยา รอง ผกก.3 บก.ปอท.เพื่อขอให้ตรวจสอบภาพต่าง ๆ ที่เสี่ยท็อป โพสต์อวดอ้างในสื่อโซเชียล
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ให้ตรวจสอบภาพต่างที่เสี่ยท็อปโพสต์อวดอ้างว่าเข้าข่ายความผิดฐานใด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายตามแต่ที่กรณีตรวจสอบพบ เช่น ภาพนาฬิกาหรู ที่เสี่ยท็อปอ้างเป็นของตัวเอง หรือภาพกองเงินที่นำมาจากเว็บไซต์ รวมถึงภาพเครื่องบิน รถยนต์หรู บ้านพัก วุฒิการศึกษาจากต่างประเทศ และเอกสาร สเตทเมนต์จากบริษัทการเงินชื่อดัง ทั้งนี้ตนเคยพบกับผู้เสียหายกรณีเสี่ยท็อปมาแล้วเมื่อปี 2559 ซึ่งพบเหยื่อคนอื่นถูกหลอกเงินไปกว่า 10 ล้านบาท แต่กลับไม่กล้าเข้าแจ้งความเพราะอับอาย ขณะที่ตัวเสี่ยท็อปเอง ก็มีที่ปรึกษาทางกฎหมายค่อนข้างเก่ง ซึ่งพยายามทำให้คดีเข้าข่ายทางแพ่งมากกว่าอาญา โดยยอมเซ็นต์รับสภาพหนี้
ขณะที่ น.ส.ดาริน ระบุว่า ก่อนหน้านี้ที่ตนเองยังไม่เดินทางเข้าแจ้งความเพราะได้ปรึกษากับทนายความแล้วพบว่าไม่เข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง และไม่เข้าเงื่อนไขที่กองปราบปรามจะทำคดีให้ ครั้งนี้จึงรวบรวมหลักฐานมาใหม่เพื่อให้ตรวจสอบ ส่วนประเด็นที่เสี่ยท็อป เซ็นต์ยอมรับหลังใบหย่านั้น ยืนยันว่าเป็นของจริง ซึ่งเจ้าตัวระบุจะรับผิดชอบหนี้สินงานสมรสทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเคยมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกแต่งงานแบบนี้มาแล้ว 4 คน แต่ที่ต้องเลิกราไปเพราะเสี่ยท็อปอ้างว่า ไปด้วยกันไม่ได้ แต่ที่ตนมั่นใจยอมตกลงแต่งงานกันนั้นเป็นเพราะเสี่ยท็อป ให้เกียรติครอบครัว และดูแลตนดี
น.ส.ดา กล่าวต่อว่า ตอนแรกตนไม่มีความสงสัยในตัวเสี่ยท็อปเลย แต่มาเริ่มเอะใจหลังจากแต่งงาน เพราะเขาเลื่อนจ่ายเงินค่าดนตรี ค่าชุดโดยอ้างว่ากำลังรอเงินจากฮ่องกงเท่านั้น ขณะที่เสี่ยท็อป เคยพาตนไปฮ่องกงมาคืนหนึ่ง ซึ่งเดินทางด้วยสายการบินที่นั่งชั้นประหยัด เมื่อไปถึงก็พานั่งแท็กซี่แดงธรรมดาไปยังที่พัก ทั้งนี้ตนไม่มีอะไรอยากจะบอกกับเสี่ยท็อปทั้งสิ้น ถ้าถามว่ายังรักเสี่ยทอปไหม ตนก็อยากกลับว่าถ้ามีคนทำแบบนี้กับคุณ คุณจะรักเขาไหม
อย่างไรก็ตาม ทาง พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวภายหลังรับเอกสารหลักฐานว่า หากการกระทำดังกล่าวทำให้ผู้อื่นเสียหาย ก็จะเข้าข่ายทำผิดตามกฎหมาย ซึ่งหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะรับเรื่องไปตรวจสอบ เบื้องต้น คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะทราบผล และหากพบความผิดจริงก็จะเชิญผู้ถูกกล่าวหามาสอบสวนต่อไป