ซักฟอกงบวาระแรก '4ปมร้อน' ฝ่ายค้านตั้งโจทย์ถล่มต่อเนื่องวาระ 2-3

ความเคลื่อนไหวจากทางฝั่งรัฐบาลและฝ่ายค้านในการเตรียมความพร้อมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2563 ลงเงิน 3.2 ล้านล้านวาระแรกในวันนี้(17 ต.ค.) 

วานนี้ (16ต.ค.)นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวถึงว่า พรรคเตรียมพร้อมในทุกเรื่องที่เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลและพร้อมที่จะชี้แจง รวมถึงรับฟังความเห็นและข้อชี้แนะจาก ส.ส.และทุกฝ่าย และตามลำดับขั้นตอน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะเป็นผู้แถลงเปิด จากนั้นจะเป็นผู้นำฝ่ายค้านขึ้นอภิปราย ในส่วนของตนจะชี้แจงทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ รายได้ทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการคลัง หากไปเกี่ยวกับกระทรวงอื่นแต่ละกระทรวงก็จะเป็นผู้ตอบ

ทั้งนี้มั่นใจว่าจะมีเสียงสนับสนุนให้ผ่านร่าง พ.ร.บ.งบฯได้ อย่างไรก็ดีในส่วนของพรรคพปชร.มีการเตรียมการและเน้นย้ำ ส.ส.ไปแล้ว รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลก็มีเตรียมการเช่นเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวรายรายงานจากพรรค พปชร.แจ้งว่า ในการประชุมส.ส. พรรค เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้ได้กำหนดตัวผู้อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ จำนวน 26 คน รวมเวลาอภิปรายประมาณ 4 ชั่วโมง โดยเบื้องต้น ไม่มีการพูดคุยกันเรื่ององค์รักษ์พิทักษ์ ครม.เหมือนคราวแถลงนโยบายรัฐบาล พร้อมกันนั้นยังได้กำชับให้ ส.ส.ทุกคน ห้ามขาด ห้ามลา และมาสายเด็ดขาด โดยให้เตรียมความพร้อมในการลงคะแนนเสียงตลอดระยะเวลา 3 วัน

แบ่งลงตัว2ฝ่ายอภิปราย36ชม.

นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายช่ื่อ พปชร. ในฐานะประธานวิปรัฐบาล แถลงผลหารือถึงกรอบเวลาการอภิปรายว่า มติของที่ประชุมจะจัดสรรเวลาให้อภิปรายรวม 36 ชั่วโมง โดยแบ่งเวลาให้ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล เท่ากัน คือ 18 ชั่วโมง ส่วนเวลาของพรรครัฐบาลจัดสรรให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชี้แจง รวม 6 ชั่วโมง ขณะที่การประท้วงได้ตกลงร่วมกันว่า หากฝ่ายใดท่ี่ลุกประท้วง จะให้หักเวลาของฝ่ายนั้นๆ  ทั้งนี้เวลาดังกล่าว จะไม่รวมการนำเสนอเนื้อหาของ พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม จำนวน 2 ชั่วโมง

“สำหรับการอภิปรายของสภาฯ จะเริ่ม 09.30 น. ไปจนถึงเลยเวลา 24.00 น. และใช้วิธีการพักการประชุม เพื่อให้การเริ่มต้นวันใหม่ ไม่ต้องนับองค์ประชุม ขณะที่วันที่ 19 ตุลาคม จะเริ่มช่วงเช้า ไปจนถึงเวลา 21.30 น.” นายวิรัช กล่าว

 

พท.เตือนหยุดปลุกกระแสชังชาติ

วันเดียวกันที่พรรคเพื่อไทย(พท.) มีการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เพื่อเตรียมเนื้อหา และความพร้อมในการเตรียมอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2563 โดยมีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรค เป็นประธานการประชุม

โดย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค กล่าวว่า การวิพากษ์วิจารณ์การใช้งบประมาณของกองทัพ หรือหน่วยงานด้านความมั่นคง เป็นเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ ควรสนใจและให้ความสำคัญ เพราะไม่ใช่การชังชาติ หรือไม่รักชาติเหมือนที่พล.อ.ประยุทธ์ และผู้ใต้บังคับบัญชาพยายามสร้างกระแสชี้นำสังคม วันนี้ฝ่ายค้านต้องการชี้ให้รัฐบาลจัดลำดับความสำคัญการใช้งบประมาณให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจเพราะล่าสุด “สวนดุสิตโพล” ได้สะท้อนถึงความเห็นของประชาชนส่วนใหญ่ที่ต้องการให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน มากกว่ามุ่งไปที่การจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ เหมือน 5 ปีที่ผ่านมา

วางกรอบอภิปราย4ประเด็น

ด้านนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า รูปแบบการอภิปรายจะมีผู้อภิปรายชี้ให้เห็น 4 ประเด็นหลัก คือ การใช้งบให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนหรือไม่ แก้ปัญหาตอบโจทย์ประเทศได้สูงสุดหรือไม่ ใช้งบประมาณได้ถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ และสุดท้ายจัดงบประมาณมีความโปร่งใสถูกต้องหรือไม่ โดยจะชี้ให้เห็นเหตุผลว่าเหตุใด ฝ่ายค้านจึงไม่สามารถยกมือสนับสนับสนุนให้กับ พ.ร.บ.งบประมาณ ฉบับนี้ได้

ยืนยันว่า ไม่ได้จ้องล้มรัฐบาล หรือเอางบประมาณมาเป็นเกมการเมือง ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าฝ่ายค้านอาจจะยอมให้ผ่านร่างพ.ร.บ.งบฯ ในวาระรับหลักการนั้น จะมีข้อสรุปในวันสุดท้าย หลังจากหารือร่วมกับ 7 พรรคฝ่ายค้าน ส่วนจะยกมือให้ผ่านหรืองดออกเสียง ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะรับฟังคำแนะนำและนำไปปรับปรุงหรือไม่ เชื่อว่าจะไม่มีงูเห่าหรือมีใครแตกมติพรรค รวมถึงพรรคร่วมฝ่ายค้านก็ยืนยันไปในทิศทางเดียวกัน

ทั้งนี้ในการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ แกนนำพรรคเศรษฐกิจใหม่ จะยังไม่ร่วมอภิปรายในครั้งนี้ เพราะแสดงความต้องการตั้งแต่ต้นว่าจะขออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเท่านั้น

จองกฐินชำแหละต่อวาระ2-3

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ฐานะกรรมการวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า เบื้องต้นพรรคเพื่อไทย จะได้เวลา 9 ชั่วโมง และ มีส.ส.ที่จะอภิปรายรวม 66 คน ขณะที่พรรคอนาคตใหม่ ทราบว่าเดิมมี 30 คน แต่อาจปรับลดเหลือ 20-29 คน เป็นต้น ยืนยันว่าในส่วนของพรรคฝ่ายค้านจะใช้เวลาให้คุ้มค่า หากเสียงข้างมากของสภาฯ ลงมติรับหลักการวาระแรก ในการตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) เพื่อพิจารณารายละเอียดนั้น ในส่วนของส.ส.พรรคเพื่อไทยที่เป็นกมธ.ฯ สามารถพิจารณาลงรายละเอียดได้ แม้จะตัดงบประมาณไม่ได้ แต่เชื่อว่าเมื่อได้พิจารณาเป็นรายมาตราจะมีการขุดคุ้ยรายละเอียดได้มากขึ้น

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่มีแนวทางเสนอ 4 ข้อ 1.งบประมาณจากส่วนกลางจะต้องถูกย้ายไปให้ท้องถิ่นมีอำนาจบริหารงบประมาณได้อิสระมากขึ้น 2.งบดำเนินการนั้นเยอะเกินไป เรากำลังนำเงินภาษีประชาชนไปเลี้ยงระบบราชการที่ใหญ่ในรูปแบบงบเบี้ยเลี้ยง งบเดินทาง ค่าจัดสัมมนาต่างๆ

1. เราต้องทำให้รัฐมีประสิทธิภาพมากขึ้นต้องทำเพื่อคนทุกคนและ 4.เราจำเป็นต้องสร้างสวัสดิการให้ครอบคลุมเพื่อความเสมอภาค ส่วนการตั้งงบกลาง 5 แสนล้านบาทมองว่า การตั้งงบกลางเยอะๆ เป็นการข้ามหัวสภาฯ ข้ามหัวประชาชน พรรคจะอภิปรายเรื่องนี้ด้วย

“พิเชษฐ”ปัดต่อรองแลกโหวตหนุน

ขณะที่นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธรรมไท กล่าวว่า หลังหารือวิป 2 ฝ่ายตนฐานะกลุ่มพรรคฝ่ายค้านอิสระ ร่วมกับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ได้รับจัดสรรเวลาคนละ 10 นาที รวมเป็น 20 นาที โดยแบ่งเวลามาจากฝั่งของรัฐบาล 

ทั้งนี้ การได้เวลาของฝั่งรัฐบาลดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องผูกมัดให้ตนและนายมงคลกิตติ์ลงมติสนับสนุน ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ทั้งนี้ต้องรอฟังการชี้แจงของ ครม. ส่วนการลงมติรับหรือไม่รับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ หรือไม่ ขอรอหารือนายมงคลกิตติ์อีกครั้ง ยืนยันว่าจะใช้ความอิสระในการพิจารณา โดยไม่มีประเด็นการรับผลประโยชน์ตอบแทน ตามที่มีกระแสข่าวเกิดขึ้น

ศาลสั่ง“นวัธ”หยุดปฏิบัติหน้าที่

วันเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้วินิจฉัยสมาชิกภาพส.ส.ของนายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 พรรคเพื่อไทย จากกรณีต้องคำพิพากษาของศาลจังหวัดขอนแก่นลงโทษประหารชีวิต โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับเรื่องดังกล่าวไว้วินิจฉัย เนื่องจากต้องรัฐธรรมนูญมาตรา 82 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 7 (5) และมีคำสั่งให้นายนวัธ หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

กมธ.มั่นคงเรียกผบ.ทบ.แจง21ต.ค.

พล.ท.พงศกร รอดชมภู ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ในฐานะประธานกรรมาธิการ(กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีเตรียมเชิญ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มาแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องความมั่นคงในวันที่ 21 ต.ค.นี้ ว่า เป็นการเชิญ พล.อ.อภิรัชต์ มาแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องความมั่นคง หลังจากที่ พล.อ.อภิรัชต์ ได้บรรยายพิเศษหัวข้อ “แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง” ไม่ใช่การเรียกมาสอบสวนหรือตรวจสอบอะไร

แต่อาจจะแจ้งให้ทราบเรื่องท่าทีของ ผบ.ทบ.ควรวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ซึ่งจะต้องไม่ควรพูดในบางเรื่องที่จะไปกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ส่วน ผบ.ทบ.จะมาร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นกับ กมธ.หรือไม่ ถือเป็นสิทธิ