สหรัฐทำเอเชียผิดหวัง ลดระดับตัวแทนร่วมซัมมิตอาเซียน
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า สหรัฐลดระดับการมีส่วนร่วมประชุมเอเชีย-แปซิฟิกที่กรุงเทพฯ ในสัปดาห์หน้า สร้างความผิดหวังให้กับพันธมิตรเอเชียที่กังวลเรื่องการขยายอิทธิพลของจีน
ในช่วงที่คาดกันว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ จะร่วมประชุมเอเอฟที่ชิลีกลางเดือน พ.ย. ทำเนียบขาวแถลงว่า นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรทวงพาณิชย์ จะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของรัฐบาลวอชิงตัน ที่จะเข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเชียตะวันออก (อีเอเอส) และผู้นำสหรัฐ-อาเซียน ที่กรุงเทพฯ ในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ นายรอสส์จะเป็นหัวหน้าคณะตัวแทนสหรัฐ ร่วมประชุมคณะทำงานของรัฐบาลและผู้บริหารภาคธุรกิจในเวที Indo-Pacific Business Forum นอกรอบการประชุมอีเอเอส ส่วนนายโรเบิร์ต โอไบรอัน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติทำเนียบขาว เป็นทูตพิเศษของนายทรัมป์เข้าประชุมซัมมิต
นายเดวิด สติลเวลล์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศด้านกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกจะเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย เห็นได้ชัดว่า ประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค เช่น ญี่ปุ่น อินเดีย และจีน ส่งตัวแทนตำแหน่งสำคัญกว่าสหรัฐมาร่วมประชุม
แม้รายงานยุทธศาสตร์เพนตากอนปีนี้ประกาศถึง “อินโดแปซิฟิก” ว่า เป็นภูมิภาคเดียวที่สำคัญที่สุดต่ออนาคตของอเมริกา แต่รัฐบาลทรัมป์ให้ความสำคัญกับการประชุมอีเอเอสและอาเซียนน้อยลงเรื่อย ๆ
นับตั้งแต่รับตำแหน่งเมื่อช่วงสิ้นเดือนม.ค. 2560 นายทรัมป์เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนด้วยตัวเองเพียงครั้งเดียว คือที่ฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพในช่วงปลายปีเดียวกัน และให้นายเร็กซ์ ทิลเลอร์วสัน รมว.กระทรวงการต่างประเทศในตอนนั้น เข้าร่วมการประชุมอีเอเอสแทน
ขณะที่รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ เป็นผู้แทนของทรัมป์เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนที่สิงคโปร์ เมื่อปีที่แล้ว แตกต่างจากยุครัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา ซึ่งโอบามาเดินทางมาประชุมด้วยตัวเองทุกครั้ง ยกเว้นเมื่อปี 2556 ซึ่งส่งรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน มาแทน เนื่องจากนายโอบามาต้องอยู่แก้ปัญหาชัตดาวน์ที่ทำเนียบขาว
นักการทูตเอเชียหลายคนเผยว่า การที่สหรัฐไม่ส่งตัวแทนระดับสูงมากรุงเทพฯ เป็นเรื่องน่าผิดหวังมากสำหรับภูมิภาคที่กำลังกังวลเรื่องจีนขยายอิทธิพลอย่างรวดเร็ว
นายทรัมป์ มีแผนไปประชุมเอเปคที่ชิลี ที่เขาเคยบอกว่า หวังจะได้ลงนามข้อตกลงเฟส 1 กับจีนแก้ปัญหาเทรดวอร์ แต่เมื่อนายทรัมป์ไม่มากรุงเทพฯ นักการทูตและนักวิเคราะห์จึงสงสัยถึงความรับผิดชอบของสหรัฐต่อภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะหลังจากเขาถอนตัวจากทีพีพีในปี 2560 หลังรับตำแหน่งประธานาธิบดีได้ไม่นาน
นายแมททิว กู๊ดแมน ที่ปรึกษาอาวุโสด้านเศรษฐกิจเอเชีย ศูนย์วอชิงตันเพื่อยุทธศาสตร์และการระหว่างประเทศศึกษา มองว่า การส่งตัวแทนมาแบบนี้เป็น “ปัญหาที่แท้จริง”
“ก็อย่างที่วู้ดดี้ อัลเลนบอก 80 หรือ 85% ของชีวิตคือการไปปรากฏตัว จริงที่สุดสำหรับอินโดแปซิฟิก ถ้าคุณไปคุณก็ได้รับการยกย่อง ไม่ว่าคุณจะทำหรือพูดอะไร แต่ถ้าคุณไม่ไปคือมีปัญหาแล้ว”
นางเอมี ซีไรท์ เจ้าหน้าที่กลาโหมอาวุโสรัฐบาลนายโอบามา ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาอาวุโสซีเอสไอเอส กล่าวว่า การประชุมผู้นำอีเอเอส เป็นเวทีสนทนาเชิงยุทธศาสตร์สำคัญยิ่งสำหรับเอเชียแปซิฟิก มีผู้นำจากจีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอาเซียน 10 ประเทศร่วมประชุม
"ตกกลายเป็นข่าวหน้า 1 ในภูมิภาคแน่ๆ ว่า ไม่มีผู้นำระดับสูงของสหรัฐมาร่วมประชุมซัมมิตกับผู้นำอินโดแปซิฟิกอีก 17 ประเทศ และต้องมีคนถามแน่ๆ ว่า รัฐบาลนี้จริงจังกับยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้างแค่ไหน และที่แน่ๆ ต้องมีคนสงสัยถึงความน่าเชื่อถือของสหรัฐ ในการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของภูมิภาค