คาดเฟดลดดอกเบี้ย แต่ตลาดมีโอกาสผันผวนช่วงสั้นในช่วงต้น QE รอบใหม่
คาดเฟดลดดอกเบี้ยในการประชุม 30 ต.ค.
อย่างไรก็ตามความพยายามเพิ่มสภาพคล่องในตลาดและการดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลาย (หรือ QE รอบใหม่) ที่อาจถือได้ว่าเริ่มดำเนินการตั้งแต่ ก.ย.62 เมื่อสังเหตจากงบดุลของเฟดที่เพิ่มขึ้น คาดจะทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้นเช่นเดียวกับการทำ QE ครั้งที่1-3 ซึ่งในช่วงต้นมีแนวโน้มจะทำให้เกิดการผันผวนจากการปรับพอร์ตของนักลงทุน และเสี่ยงที่จะทำให้หุ้นโลกผันผวน จนกว่าจะเห็นสัญญาณบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจะเกิดจากการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ในช่วงพ.ย.
ผันผวนในโซนต่ำ 1550-1600 ก่อนฟื้นตัว ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ช่วงสั้นมีโอกาสผันผวนจากแรงขายปรับพอร์ต โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นปลอดภัยที่มีโอกาสเผชิญแรงทำกำไรระยะสั้นจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี สหรัฐฯ ที่คาดจะฟื้นตัวขึ้น ทั้งนี้แรงซื้อกลับในกลุ่มหุ้นอิงเศรษฐกิจที่ปรับลดลงมาก อาจยังไม่เด่นชัดจนกว่าจะผ่านข่าวลบจากผลประกอบการ ทำให้นักลงทุนจะยังพยายามหาหุ้นปลอดภัยที่ราคาไม่แพงและมีผลตอบแทนที่สมเหตุผล ทำให้หุ้นสื่อสารและหุ้นที่คาดผลตอบแทนปันผลสูงจะเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจ
เราเน้น selective buy ในหุ้นที่โมเมนตัมกำไรช่วงครึ่งปีหลังเป็นบวก พื้นฐานแกร่ง ราคาไม่แพง เพื่อให้สอดคล้องกับมุมมองของเราที่คาดตลาดเป็นบวกในช่วงไตรมาส 4/62 เราเน้น selective buy 1) สาธารณูปโภคที่ยังไม่แพง WHAUP, BGRIM, SSP, NNCL 2) กลุ่มได้ประโยชน์จากน้ำมันทรงตัว อาทิ EPG, BJC, BGC, DCC โรงกลั่น SPRC, TOP, BCP, ESSO 3) กลุ่มโรงแรม AOT, MINT, ERW จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่คาดฟื้นตัว // รวมถึงหุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ ADVANC, INTUCH, VRANDA*, TEAMG, MTC, SAWAD, VNT*, CPN // กลุ่มการแพทย์ ร.พ.ขนาดเล็กเด่น RPH*, RJH*, CHG
ภาพรวมกลยุทธ์ แม้ SET อาจผันผวน แต่คาด downside ในหุ้นใหญ่หลายตัวเริ่มจำกัด โดยตลาดมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1570-1610 จุด // หุ้นแนะนำวันนี้ MINT, WHAUP /เก็งกำไร EPG* (เป้า 10, ตัดขาดทุน 7.10), THRE* (เป้า 0.66, ตัดขาดทุน 0.54)
แนวรับ 1570-1580 จุด / แนวต้าน : 1600-1610. สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
ประเด็นการลงทุน
สหรัฐฯอาจขยายเส้นตายระงับเก็บภาษีสินค้าจีน – สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) เผยว่า อาจพิจารณาขยายระยะเวลาการเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนวงเงิน $3.4 หมื่นล้าน ที่จะครบกำหนดวันที่ 28 ธ.ค. ออกไป โดย USTR จะขอความเห็นจากภาคสาธารณะเกี่ยวกับข้อเสนอดังกล่าวในช่วงวันที่ 1-30 พ.ย.นี้
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯต่ำสุดในรอบ 4 เดือน – ผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯเดือน ต.ค. ลดลงสู่ระดับ 125.9 ต่ำสุดในรอบ 4 เดือน โดยกลุ่มผู้บริโภคกังวลต่อภาวะการจ้างงานและทิศทางเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้า
ดัชนีความเชื่อมั่นโมเดิร์นเทรดต่ำสุดในรอบ 5 ไตรมาส – หอการค้า รายงาน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรด ไตรมาส 3/62 อยู่ที่ 51 ต่ำสุดในรอบ 5 ไตรมาส จากความกังวลต่อภัยธรรมชติและตัวเลขส่งออกที่ชะลอตัวต่อเนื่อง
จีนยกเลิกข้อจำกัดนลท.ต่างชาติ ยันไม่บังคับถ่ายโอนเทคโนโลยี – จีนประกาศยกเลิกข้อจำกัดต่อนักลงทุนต่างชาติและจะไม่มีการบังคับให้บริษัทต่างชาติต้องทำการถ่านโอนเทคโนโลยี ซึ่งประเด็นดังกล่าวคือหนึ่งในข้อถกเถียงสำคัญระหว่างจีน-สหรัฐฯ
ยอดลงทุนจีนในไทยโต 100% yoy – BOI เผยว่า ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมามียอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนของผู้ประกอบการจีนดีขึ้นต่อเนื่อง โดยมีคำขอรับส่งเสริมการลงทุนรวม 4.5 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้น 100% yoy
ดัชนี MPI หดตัว 4.73% – สศอ.รายงานตัวเลขดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ก.ย. อยู่ที่ 97.5 หดตัวลง 4.73% yoy จากผลกระทบของแนวโน้มเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ชะลอตัว
ประเด็นติดตาม: 30 ต.ค. – FOMC meeting / US GDP 3Q62, 31 ต.ค. – Manufacturing PMI ของจีน, 1 พ.ย. – ตัวเลขเงินเฟ้อไทย
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-คาดเฟดลดดอกเบี้ย แต่ตลาดมีโอกาสผันผวนช่วงสั้นใน
-ระวังความผันผวนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ดีด
-หากไม่เกิดเศรษฐกิจถดถอย หุ้นโลกมีโอกาสปรับขึ้น
-เก็งกำไรเชิงตั้งรับโดยเน้นลงทุนรายตัวในหุ้นที่ทิศทาง