ตลาดหุ้นซานติอาโกทรุดหนัก หลังผู้นำชิลียกเลิกประชุมเอเปค
ตลาดหุ้นซานติอาโกทรุดหนัก หลังผู้นำชิลียกเลิกประชุมเอเปค ท่ามกลางเหตุการณ์จลาจลที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ โดยมีการปล้มสะดมร้านค้า และการเผาสถานีรถไฟใต้ดินหลายแห่ง
ตลาดหุ้นซานติอาโกดิ่งลงกว่า 3% ในวันพุธ(30ต.ค.) หลังจากประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปิเญร่า ผู้นำชิลี ประกาศยกเลิกการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่มีกำหนดจัดขึ้นในเมืองซานติอาโกในเดือนหน้า ท่ามกลางเหตุการณ์จลาจลที่เกิดขึ้นในประเทศ
ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์กันว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน จะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกนอกรอบการประชุมเอเปค ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 16-17 พ.ย.
รัฐบาลชิลี ประกาศภาวะฉุกเฉินในหลายเมืองเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางเหตุการณ์จลาจลที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ โดยมีการปล้มสะดมร้านค้า และการเผาสถานีรถไฟใต้ดินหลายแห่ง ขณะที่ประชาชนต่างลุกฮือแสดงความไม่พอใจต่อการที่รัฐบาลประกาศปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟใต้ดิน 4% แม้รัฐบาลประกาศระงับการขึ้นค่าโดยสารดังกล่าวแล้ว แต่กลุ่มผู้ประท้วงก็ยังคงพากันชุมนุมต่อต้านรัฐบาล
“นี่เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก โดยความกังวลหลักของเราคือการฟื้นความสงบเรียบร้อยในสังคม ให้ความปลอดภัยและสันติสุขแก่ประชาชน พร้อมกับตอบสนองความต้องการของประชาชน” นายปิเญร่ากล่าว
ความวุ่นวายดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 ราย และมีการจับกุมตัวผู้ก่อความไม่สงบ 7,000 ราย ขณะที่ภาคธุรกิจประสบความเสียหายราว 1.4 พันล้านดอลลาร์
“เรากำลังทำสงครามกับศัตรูที่ทรงพลัง ซึ่งพร้อมที่จะใช้ความรุนแรงอย่างไม่จำกัด” นายปิเญร่ากล่าว
ก่อนหน้านี้ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า รัฐบาลจะสามารถควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่มีการมองกันว่าชิลีเป็นประเทศที่มีเสถียรภาพมากที่สุดในภูมิภาค
ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลชิลีประกาศภาวะฉุกเฉิน นับตั้งแต่มีการปกครองแบบประชาธิปไตยในปี 2533 อันเนื่องจากความไม่สงบที่เกิดขึ้นในกรุงซานติอาโก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-ทำเนียบขาวยัน 'ทรัมป์-สี จิ้นผิง' ลงนามการค้าเดือนหน้า
-กูรูฟันธงหุ้นสหรัฐทรุดหนักหาก“ทรัมป์”พ่ายเลือกตั้งปีหน้า
-'หุ้นแบงก์' รูดหนัก ผวารายได้ทรุด หลังหั่นลดดอกเบี้ย
-ราคาหุ้นบ.ข้ามชาติในจีนทรุดหนักหลัง“ทรัมป์”เก็บภาษี