หลัก '3ส 1ล' ช่วยลดฝุ่น
กรมอนามัย ห่วงประชาชนที่ต้องเผชิญปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 หมั่นทำความสะอาดบ้าน ที่อยู่อาศัยด้วยวิธี “3ส 1ล” เพื่อลดฝุ่นภายในบ้าน
แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ในช่วงที่ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เพิ่มสูงขึ้น นอกจากประชาชนจะต้องรู้จักสวมหน้ากากป้องกันตนเองเมื่ออยู่นอกอาคารและหลีกเลี่ยงหรืองดการทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้งแล้ว ควรต้องใส่ใจทำความสะอาดบ้าน ที่อยู่อาศัย เพราะหากดูแลรักษาบ้านไม่สะอาด มีสิ่งของเครื่องใช้ที่ไม่จำเป็นมากเกินไป หรือไม่มีการดูแลทำความสะอาดอุปกรณ์เครื่องใช้ เช่น หน้ากากเครื่องปรับอากาศ พัดลม มุ้งลวด ผ้าม่าน สิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นแหล่งสะสมฝุ่นละออง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจได้เช่นกัน ดังนั้นประชาชนควรทำความสะอาดและจัดข้าวของในบ้านให้เป็นระเบียบ ด้วยวิธี “3ส 1ล” ดังนี้
1) ส.สะสาง คัดแยกสิ่งของที่ไม่จำเป็นหรือไม่ใช้แล้วออกไปเพราะจะเป็นแหล่งสะสมฝุ่น เช่น อุปกรณ์ที่ชำรุดใช้งานไม่ได้ หนังสือพิมพ์เก่า นิตยสาร วารสาร เป็นต้น โดยเฉพาะห้องที่อยู่เป็นประจำควรมีเฟอร์นิเจอร์และสิ่งของให้น้อยชิ้นที่สุด เพื่อจะได้ทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง
2) ส.สะอาด ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน เช็ดถูทำความสะอาดพื้นและตามซอกมุมต่างๆ เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของฝุ่น รวมทั้งล้างอุปกรณ์เครื่องใช้ เช่น พัดลม เครื่องปรับอากาศ แผ่นกรองอากาศและมุ้งลวด ให้สะอาดอยู่เสมอและยังช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์เครื่องใช้ดังกล่าว สำหรับเครื่องนอน ควรซักทำความสะอาดผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนเป็นประจำ รวมทั้งควรซักทำความสะอาดผ้าม่านด้วย
3) ส.สร้าง ประชาชนควรสร้างสุขนิสัย ในการดูแลและทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่มีฝุ่นละอองสูง อาจจะต้องเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดบ้านมากขึ้น รวมถึงสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี รอบบริเวณบ้าน โดยปลูกต้นไม้ที่มีลักษณะใบหนา หยาบ มีขน เพื่อช่วยดักฝุ่นไว้รอบบ้าน เช่น ทองอุไร ตะขบฝรั่ง จามจุรี เป็นต้น หรือการทำละอองน้ำฝอยเพื่อลดฝุ่นที่ลอยจากพื้น
และสำหรับ 1ล คือ ลดหรือเลี่ยง กิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองเพิ่ม เช่น การจุดธูป-เทียน การเผาขยะ การจุดเตาถ่าน และการสูบบุหรี่ รวมทั้งการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ให้อยู่ในสภาพดี ไม่ก่อให้เกิดควันดำ เป็นต้น ทั้งนี้ ขณะทำความสะอาดควรสวมถุงมือ หน้ากากปิดจมูกและปากทุกครั้ง จะช่วยป้องกันการสูดฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกายได้ นอกจากนี้ ประชาชนต้องหมั่นรักษาความสะอาดและดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยทั้งพื้นที่ในบ้านและรอบบริเวณบ้านอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดการสะสมของฝุ่นและเชื้อโรคต่างๆ ด้วย” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว