เปิดข้อมูลเลือกตั้งอังกฤษ

เปิดข้อมูลเลือกตั้งอังกฤษ

สำนักข่าวรอยเตอร์เผยข้อมูลสำคัญที่จะบ่งชี้ว่าการเลือกตั้งของอังกฤษครั้งนี้จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกปัญหาได้จริงหรือ

สหราชอาณาจักรจะจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 650 คน เมื่อตั้งรัฐบาลใหม่ได้แล้วภารกิจแรกที่ต้องตัดสินใจคือ สหราชอาณาจักรจะออกจากสหภาพยุโรปอย่างไร เมื่อใด และจะออกไปหรือไม่ สำนักข่าวรอยเตอร์เผยข้อมูลสำคัญว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะตอบโจทย์ได้จริงหรือ

สหราชอาณาจักรแบ่งเป็น 650 เขตเลือกตั้ง มีสมาชิกสภาสามัญชนได้เขตละ 1 คน ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ รวบรวมเมื่อเดือน ธ.ค.2561 เผยแพร่เดือน มี.ค.ปีนี้ ระบุว่า ประกอบด้วยอังกฤษ 533 คน สก็อตแลนด์ 59 คน เวลส์ 40 คน และไอร์แลนด์เหนือ 18 คน แต่ละเขตประชาชนเลือกผู้สมัครได้ 1 คน ซึ่งจะสังกัดพรรคหรือลงในนามอิสระก็ได้ ใครได้คะแนนมากที่สุดก็ชนะไปในเขตนั้น

การลงคะแนนในวันที่ 12 ธ.ค.เริ่มต้นตั้งแต่เวลา 14.00 น. ตามเวลาประเทศไทยไปจนถึง 5.00 น. วันที่ 13 ธ.ค. การลงคะแนนทำได้ทั้งไปใช้สิทธิด้วยตนเองที่หน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ หรือเลือกตั้งล่วงหน้าทางไปรษณีย์

ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งประเทศรวมทั้งสิ้น 45.8 ล้านคน ประกอบด้วยพลเมืองอังกฤษที่พำนักในประเทศ อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ชาวไอริชและพลเมืองเครือจักรภพอังกฤษที่พำนักอยู่ในประเทศ รวมถึงชาวอังกฤษโพ้นทะเลที่ลงทะเบียนเลือกตั้งไว้ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา

ผลเอ็กซิทโพลประกาศได้ในเวลา 5.00 น.วันรุ่งขึ้นตามเวลาประเทศไทย โดยปกติแล้วผลโพลบอกทิศทางได้ไม่ผิดพลาด การเลือกตั้ง 4 ครั้งล่าสุด โพลแม่นยำบอกผลการเลือกตั้งจริงได้ตรงถึง 3 ครั้ง แม้จำนวนที่นั่งจะคลาดเคลื่อนบ้างก็ตาม เขตเลือกตั้งส่วนใหญ่เริ่มนับคะแนนทันทีที่ปิดหีบ

ผลชุดแรกโดยปกติรู้ได้ภายในเวลา 2-3 ชั่วโมง คาดว่าผลทั้งหมดทราบได้ช่วงเช้าตรู่วันที่ 13 ธ.ค.ตามเวลาท้องถิ่น สิ้นวันน่าจะประกาศผลได้ทั้งหมด

ถ้าผลเอ็กซิทโพลหรือคะแนนที่ค่อยๆ ประกาศเห็นผู้แพ้ผู้ชนะชัดเจน ฝ่ายแพ้ก็อาจเลือกที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ หรือผู้ชนะประกาศชัยชนะ แต่ถ้าผลสูสีทุกพรรคก็คอยจนกว่าจะทราบผลเกือบทั้งหมด

เสียงข้างมากในสภาอยู่ที่ 326 ที่นั่ง แต่ที่นั่งจริงต่ำกว่านี้ เนื่องจาก ส.ส.พรรคซินเฟน ซึ่งเป็นพรรคชาตินิยมไอริชในไอร์แลนด์เหนือประกาศลงเลือกตั้งแต่ไม่เข้าสภา ตัวอย่างเช่น การเลือกตั้งปี 2560 พรรคซินเฟนได้ 7 ที่นั่ง ส่งผลให้เกณฑ์เสียงข้างมากลดลงเหลือ 322 ที่นั่ง

ปัญหาคือถ้าไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมากเด็ดขาดจะเป็นอย่างไร กรณีนี้เรียกว่า “สภาแขวน” ถ้าเกิดขึ้นจริงๆ พรรคการเมืองต่างๆ ต้องจับมือกับพันธมิตรเพื่อให้ได้เสียงสนับสนุนมากพอชนะโหวตในสภา

ในกรณีนี้คนที่ดำรงตำแหน่งอยู่แล้วอย่างนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันจะได้ลองจัดการหาเสียงข้างมากก่อน โดยทำข้อตกลงร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการ เหมือนที่เคยทำเมื่อปี 2553 ระหว่างพรรคอนุรักษนิยมกับพรรคเสรีประชาธิปไตย

นอกจากนี้ยังอาจมีการทำข้อตกลงกับพรรคเล็กกว่า 1 พรรคให้คอยสนับสนุนกฎหมายบางข้อกับรัฐบาล แต่ไม่ใช่ข้อตกลงร่วมรัฐบาล เหมือนอย่างที่พรรคอนุรักษนิยมเคยทำกับพรรคสหภาพประชาธิปไตยในปี 2560

ถ้าจอห์นสันยังตั้งรัฐบาลไม่ได้ เขาอาจลาออก เปิดให้ผู้นำพรรคฝ่ายค้านใหญ่สุดได้มีโอกาสตั้งรัฐบาลแทน

ท่ามกลางความไม่แน่นอนทั้งการเลือกตั้งก่อนคริสต์มาสและเบร็กซิท อังกฤษยังพอมีข่าวดีอยู่บ้าง ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเผยแพร่วานนี้ (11 พ.ย.) ชี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 ฟื้นตัวขึ้นมาขยายตัว 0.3% หลังจากหดตัว 0.2% ในไตรมาส 2 เท่ากับว่าอังกฤษพ้นสภาพเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้อย่างหวุดหวิด เพราะในทางเทคนิคหากเศรษฐกิจเติบโตติดลบสองไตรมาสติดกันถือว่าเป็นภาวะถดถอย

สำหรับตัวเลขไตรมาส 3 ส่วนใหญ่ได้แรงหนุนจากการก่อสร้างและภาคบริการ ขณะที่ภาคการผลิตคงที่

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขไตรมาส 3 ยังต่ำกว่าที่ตลาดและธนาคารกลางอังกฤษคาดไว้ว่าจะโตที่ 0.4% และแม้ว่าจีดีพีฟื้นตัวขึ้นมา แต่สำนักงานสถิติแห่งชาติชี้ว่า ยังมีความเสี่ยงเศรษกิจชลอตัว เนื่องจากอังกฤษเตรียมออกจากอียูในวันที่ 31 ม.ค.

ถ้าเทียบเป็นรายปี จีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัว 1.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2553