สุนทรพจน์ “ทรัมป์” เผยสหรัฐ-จีนใกล้บรรลุข้อตกลงการค้า

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า สหรัฐและจีนใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก ขณะที่จีนต้องการที่จะทำข้อตกลงเป็นอย่างมาก ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวย้ำว่า เขาจะยอมรับข้อตกลงที่ดีสำหรับสหรัฐและแรงงานสหรัฐเท่านั้น

อย่างไรก็ดี ในการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมอีโคโนมิก คลับ ออฟ นิวยอร์ก ในวันอังคาร(12พ.ย.) ซึ่งปธน.ทรัมป์ ไม่ได้กล่าวถึงการที่สหรัฐจะยกเลิกการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน หรือการที่เขาจะพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเพื่อลงนามในข้อตกลงการค้า และไม่ได้กล่าวว่ าสหรัฐจะชะลอการจัดเก็บภาษีรถยนต์นำเข้าจากสหภาพยุโรป (อียู)ทั้งยังกล่าวโจมตีจีนว่าเป็นประเทศที่เอาเปรียบสหรัฐ พร้อมทั้งตำหนิสหภาพยุโรปที่ทำการค้าที่ไม่เป็นธรรมกับสหรัฐ

“นับตั้งแต่จีนเข้าสู่องค์การการค้าโลกในปี 2544 ไม่มีชาติใดเอาเปรียบสหรัฐมากกว่าจีน ผมจะไม่ใช้คำว่า ‘โกง’ แต่ไม่มีชาติไหนโกงได้ดีกว่าจีน และการที่สหภาพยุโรปตั้งกำแพงภาษีกับสหรัฐเป็นเรื่องที่แย่มาก ในหลายกรณียุโรปดำเนินการที่แย่กว่าจีน” ปธน.ทรัมป์ กล่าว

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวโจมตีธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยระบุว่า เฟด ทำให้สหรัฐเสียเปรียบประเทศอื่น และเรียกร้องให้เฟดใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ

“จงจำไว้ว่าเรากำลังแข่งขันกับประเทศที่ลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเปิดเผย จนทำให้ลูกหนี้ได้รับเงินคืนเมื่อพวกเขาทำการชำระหนี้ สิ่งนี้เรียกว่าอัตราดอกเบี้ยติดลบ มีใครเคยได้ยินเรื่องนี้บ้าง ผมขอเงินเหล่านี้บ้าง แต่เฟดของเราไม่ให้เราทำเช่นนั้น” ปธน.ทรัมป์กล่าว

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังได้วิพากษ์วิจารณ์เฟด จากการที่เฟดลังเลที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้เฟดเป็นปัจจัยถ่วงการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท

ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า นับตั้งแต่ที่เขาได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ทะยานขึ้นมากกว่า 45% ดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นมากกว่า 50% ขณะที่ดัชนีแนสแด็กดีดตัวขึ้น 60%

อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า ตลาดหุ้นสหรัฐน่าจะปรับตัวขึ้นมากกว่านี้ หากไม่ได้เป็นเพราะเฟดมีความลังเลในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

“ถ้าเรามีเฟดที่ทำงานกับเรา คุณก็สามารถคาดได้ว่าดัชนีทั้ง 3 จะสามารถพุ่งขึ้นอีก 25% ผมขอรับรอง” ปธน.ทรัมป์กล่าว

อ่านข่าว-ดาวโจนส์นิ่งหลัง“ทรัมป์”ไม่ส่งสัญญาณเลิกเก็บภาษีจีน