ถาม-ตอบ กับ 'รัศมีแข' เป็นดาราหาเงินง่ายจริงเหรอ?

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อาชีพที่ในฝันยอดฮิตและถูกอิจฉากันมากที่สุดคือ อาชีพนักแสดง หรือ ดาราที่เราเรียกติดปาก เพราะอาชีพดังกล่าวได้รับทั้งชื่อเสียง ความนิยม และสิ่งสำคัญที่ปฎิเสธไม่ได้คือรายได้มหาศาลที่สูงลิ่วแซงอาชีพอื่นๆ จนหลายคนคิดและเชื่อว่า "ดารา..หาเงินง่าย!"

แล้วในความเป็นจริงเรื่องนี้จริงเท็จแค่ไหน?

เพื่อคลายข้อสงสัยจึงพาทุกคนคลุกวงในไปคุยเรื่องเงินๆ ทองๆ กับ "รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น" นักแสดงอิสระ และนักเอนเตอร์เทนผู้มีเอกลักษณ์ ที่จะมาตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่อง "รายได้" และ "รายจ่าย" ของ "ดารา"

• ทุกสิ่งทุกอย่างมีต้นทุน

คำพูดที่ว่า "ดาราหาเงินง่าย" จริงๆ แล้ว...ไม่ง่ายเลย!

เว็บไซต์ทีวีพูลออนไลน์จัดอันดับค่าตัวดาราระดับแนวหน้าของเมืองไทยในการรับงานแสดง โฆษณา และ ละคร (ข้อมูลเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2562) สำหรับละครนั้นจะมีราคาเฉลี่ย 5 หมื่นบาทต่อหนึ่งตอน งานอีเว้นท์ 6 หมื่นบาทต่อหนึ่งงาน และโฆษณาจะมีเรทราคาตั้งแต่ 1 ล้านบาท ไปจนถึง 15 ล้านบาทต่อชิ้น

 “เราไม่ปฏิเสธว่าค่าตอบแทนอาชีพนักแสดงค่อนข้างสูง แต่อย่าลืมว่าดาราก็ต้องดูดีทั้งเสื้อผ้าหน้าผม สิ่งที่คนดูเห็นออกไปที่หน้าจอนั้น เบื้องหลังคือการดูแลตัวเองมากกว่าคนอื่น ยังไม่นับถึงเรื่องต้นทุนต่างๆ ที่เราต้องเสียไป” รัศมีแขกล่าว

 “ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดคือช่วงการถ่ายรายการ สมมุติว่าคุณเจอเราในรายการหนึ่งซึ่งเวลารายการในหน้าจอประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ในความเป็นจริงเราต้องถ่ายกันมากกว่า 5 ชั่วโมงซึ่งมันค่อนข้างหนักมาก ไม่ว่าจะทำหน้าที่เอนเตอร์เทน พิธีกรต่างๆ ล้วนต้องใช้ความทุ่มเททั้งนั้น เพื่อให้หนึ่งชั่วโมงในการออกอากาศออกมาดี ยังไม่นับแสงจ้าในสตูที่ส่องตลอดเวลา ความรับผิดชอบของดาราต้องสูงมาก เราทำงานหนึ่งงาน ต้องทำร่วมกับคนอื่นๆ อีก 7 คนหรือบางทีมากถึง 100 คน ถ้าเราเกเร หรือ เถลไถลมันจะกระทบถึงทุกคน ดังนั้นอย่ามองว่าดาราหาเงินง่าย เพราะความรับผิดชอบของเรามันสูงมาก ต้นทุนที่หมายถึงเสื้อผ้าหน้าผมก็ค่อนข้างสูงเช่นกัน"

• รายได้ดี ภาษีก็ดีตาม!

"อย่าลืมว่าดารารายได้เราดีจริง ภาษีเราก็ต้องจ่ายเยอะเช่นกัน" รัศมีแข กล่าวพร้อมหัวเราะ

มาตรา 40(8) ตามประมวลรัษฎากร กรมสรรพพากร ว่าด้วยรายได้และการจ่ายภาษีของนักแสดงสาธารณะ ซึ่งหมายถึง นักแสดงละคร ภาพยนตร์ วิทยุ โทรทัศน์ นักร้อง นักดนตรี หรือนักแสดงเพื่อความบันเทิงใดๆ ไม่ว่าจะแสดงเดี่ยว หรือเป็นหมู่หรือคณะนั้นมีการหักภาษีในอัตราที่ต่างกับคนทั่วไป

สำหรับรายได้ 300,000 บาทแรกจะถูกหักภาษี 60% และรายได้ส่วนที่เกิน 300,000 บาทจะถูกหักภาษี 40% โดยเงินส่วนที่หักภาษีรวมกันแล้วจะต้องไม่เกิน 600,000 บาทต่อปี นอกจากนี้ยังต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 5% อีกด้วย

เมื่อถามถึงวิธีจัดการในแบบฉบับรัศมีแข ได้คำตอบว่า แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ เก็บ 50 ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง 30 และใช้จ่ายส่วนตัว 20 เก็บไว้ออมคือส่วนที่ใหญ่ที่สุด ส่วนต่อมาก็คือค่าบ้าน ค่ารถ ค่าน้ำมัน ค่าหนี้สินทุกอย่าง ส่วนสุดท้ายคือค่าใช้จ่ายจิปาถะต่างๆ สำหรับเรื่องการใช้เงินเยอะ ซื้อของแบรนด์เนมต่างๆ นั้นรัศมีแขมองว่ามันอยู่ที่ความคุ้มค่ามากกว่า

“คำกล่าวที่ว่าดาราได้เงินเยอะ เราไม่อยากให้มองตอนเราประสบความสำเร็จอย่างเดียว อยากให้มองชีวิตก่อนที่เราจะประสบความสำเร็จว่าเราสู้อะไรมาบ้าง ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ เราก็ดังหรือเป็นที่รู้จักขึ้นมาเอง ทุกคนต้องพยายามกันหมด​"

"อย่างประสบการณ์ของตัวเองกว่าจะมาถึงจุดที่ได้รับความรู้จักขนาดนี้ ก็เคยต้องแชร์ค่าบ้านกับเพื่อน ขยับมาอยู่หลักพัน จนถึงทุกวันนี้ ใครจะมองว่าติดหรู ที่ต้องใช้ของดีๆ อยู่คอนโดไฮโซติดรถไฟฟ้า เราก็อยากจะบอกว่าเราซื้อความสะดวกสบายให้ตนเอง ซึ่งมันเกิดความคุ้มค่าให้ตัวเองด้วย” รัศมีแข กล่าวทิ้งท้าย