กสทช.ผนึก ทอท. ชิงเปิด '5จี' พ.ค.63
เอ็มโอยูให้บริการสุวรรณภูมิ-ดอนเมืองที่แรกหลังประมูลเสร็จ
กสทช.ประกาศเปิด 5จีภายในพ.ค.ปีหน้าในเชิงคอมเมอร์เชียล พร้อมเซ็นความร่วมมือกับทอท.ให้บริการในพื้นที่สนามบินฯเป็นแห่งหลังประมูลได้ผู้ชนะในวันที่ 16 ก.พ.63 “ฐากร” ระบุไทยจะเป็นประเทศแรกในอาเซียนอย่างแท้จริงแซงหน้าเวียดนาม และการให้บริการในอร์พอร์ตถือเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า วันที่ 27 พ.ย. 2562 สำนักงานกสทช.และ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) จะลงนามความร่วมมือในการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้บริการ 5จีเชิงพาณิชย์รายแรกในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเมื่อผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ที่ชนะการประมูล 5จี ในวันที่ 16 ก.พ. 2563 จะสามารถลงระบบ 5จีได้ทันทีในเดือน มี.ค. 2563 คาดว่าจะใช้เวลาในการวางระบบ 2-3 เดือน ค่ือไม่เกินพ.ค.2563 ก็สามารถเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง โดยเบื้องต้นการให้บริการ 5จีในพื้นที่ดังกล่าว จะเป็นการตรวจสอบใบหน้า,การบริหารจัดการคลังสินค้า และ การช่วยเหลือฉุกเฉินของรถพยาบาลภายในสนามบิน
“การเปิดให้บริการ 5จี เชิงพาณิชย์ครั้งนี้ เป็นการเปิดแซงหน้าเวียดนาม ที่กำหนดเปิดในเดือนมิ.ย. ทำให้การให้บริการ 5จีของประเทศไทยเห็นภาพชัดเจนและรับประกันได้ว่ามีผู้ใช้งานจริง ก่อนที่เราจะไปเปิดในอีอีซี ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาสร้างหลายปี ดังนั้นพื้นที่สนามบินจึงเหมาะสม ทั้งสถานที่ สภาพแวดล้อม การใช้งาน และเป็นหน้าเป็นตาของประเทศไทย ”
สำหรับคลื่นในการประมูล 5จีทั้ง 4 ย่านความถี่ แต่แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะมีคลื่น 2600 เมกะเฮิรตซ์ที่น่าสนใจในการประมูลครั้งนี้ แต่การประกาศหลักเกณฑ์การประมูลต้องประกาศทุกคลื่น ทั้งคลื่น 700 เมกะเฮิรตซ์,1800 เมกะเฮิรตซ์,2600 เมกะเฮิรตซ์ และ คลื่น 26 กิกะเฮิรตซ์ ซึ่งต้องรับฟังความคิดเห็นสาธารณะก่อนจึงจะสรุปความชัดเจนได้ ก่อนลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 27 ธ.ค. 2562
นายฐากร กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าในการตั้งคณะกรรมการ 5จี แห่งชาติ คาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 26 พ.ย.นี้ โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน,พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธาน ร่วม มีรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้อง เป็นกรรมการ รวมถึง ตัวแทนสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย,สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และ สมาคมธนาคารไทย ส่วนโอเปอเรเตอร์จะนั่งเป็นอนุกรรมการ
สำหรับผลการตรวจรับโครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบ (โซนซี+) ที่ บมจ.ทีโอทีชนะการประมูลประกวดราคา 3 สัญญาวงเงินรวม 6,486 ล้านบาท ซึ่งกสทช.ได้แจ้งยกเลิกสัญญาไปเมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา พบว่า ทีโอที สามารถส่งมอบศูนย์ ยูโซ่ เน็ต ได้เพียง 9 แห่ง คิดเป็นมูลค่า 100-200 ล้านบาท จากทั้งหมด 371 แห่ง เนื่องจากกระบวนการสร้างอาคารผิดเงื่อนไขตามที่สัญญากำหนด ทำให้คณะกรรมการตรวจรับงานต้องใช้เวลาในการลงพื้นที่จริงเพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนว่าแต่ละศูนย์นั้นต้องดำเนินการเพิ่มเติมอย่างไรบ้างก่อนที่จะเปิดให้เอกชนรายอื่นเข้ามาประมูล
