จีนออกหมัดแรก ตอบโต้ฮ่องกงบิลล์

จีนออกหมัดแรก ตอบโต้ฮ่องกงบิลล์

การต่อสู้ระหว่างจีนกับสหรัฐใน พ.ศ.นี้ไม่ได้มีแค่เรื่องเศรษฐกิจการค้า ทั่วโลกรู้ดีว่าศึกนี้ขยายวงไปถึงเรื่องการเมืองและอุดมการณ์ การที่สหรัฐออกกฎหมายสนับสนุนขบวนการประชาธิปไตยในฮ่องกงเป็นสัญญาณการกดดันทางการเมืองชัดเจน และก็ถึงเวลาที่จีนต้องตอบโต้

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างถ้อยแถลงของนางสาวหัว ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เมื่อวานนี้ (2 ธ.ค.) ระบุ

“เพื่อตอบโต้พฤติกรรมอันไร้เหตุผลของฝ่ายสหรัฐ รัฐบาลจีนตัดสินใจระงับทบทวนใบอนุญาตให้เรือรบสหรัฐที่ขอเข้ามาเทียบท่าในฮ่องกงเพื่อพักผ่อน ตามที่ยื่นมานับจนถึงขณะนี้”

นอกจากนี้ รัฐบาลปักกิ่งจะคว่ำบาตรองค์กรพัฒนาเอกชนที่มีฐานปฏิบัติการในสหรัฐ ที่ทำพฤติกรรมเลวร้ายกรณีเหตุไม่สงบล่าสุดในฮ่องกง ได้แก่ กองทุนประชาธิปไตยแห่งชาติ (เอ็นอีดี) ฮิวแมนไรท์สวอทช์ และฟรีดอมเฮาส์

“จีนเรียกร้องให้สหรัฐแก้ไขความผิดพลาด หยุดการกระทำใดๆ และหยุดแทรกแซงกิจการฮ่องกงรวมทั้งกิจการภายในของจีน มีข้อเท็จจริงและหลักฐานมากมายชี้ชัดว่าเอ็นจีโอเหล่านี้สนับสนุนความพยายามต่อต้านจีนและส่งเสริมกิจกรรมแบ่งแยกดินแดนเพื่อเอกราชฮ่องกง พวกเขาต้องรับผิดชอบเต็มๆ กับความโกลาหลที่เกิดขึ้น” โฆษกระบุ

ชนวนเหตุการตอบโต้จากจีนเนื่องจากสัปดาห์ก่อนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกง กำหนดให้ประธานาธิบดีสหรัฐทบทวนสิทธิพิเศษของฮ่องกงทุกปี และเพิกถอนสิทธินั้นได้หากเสรีภาพของฮ่องกงถูกแทรกแซง

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่สองมหาอำนาจเศรษฐกิจโลก พยายามสรุปข้อตกลงการค้า “เฟส 1” หลังจากทำสงครามการค้ายืดเยื้อ

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ส.ค. จีนเคยปฏิเสธไม่ให้เรือกองทัพเรือสหรัฐ 2 ลำเทียบท่าในฮ่องกงมาแล้ว โดยไม่ได้ระบุเหตุผลชี้ชัด

ขณะเดียวกันการเรียกร้องประชาธิปไตย ที่ระยะหลังเกิดความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ทำลายเศรษฐกิจของฮ่องกง ล่าสุดจ่อขาดดุลงบประมาณครั้งแรกในรอบ 15 ปี ผลพวงจากมรสุมใหญ่ 2 ลูก ทั้งสงครามการค้าและการเรียกร้องประชาธิปไตย ถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าเศรษฐกิจฮ่องกงตกที่นั่งลำบาก

พอล ชาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงต่อสภาวานนี้ ว่า เศรษฐกิจฮ่องกงปี 2562 ส่อเค้าหดตัว 1.3% ส่งผลต่องบประมาณที่เคยตั้งไว้เกินดุล

รัฐมนตรีคลังกล่าวโทษว่าการขาดดุลงบประมาณประจำปี 2562-2563 เป็นผลจากภาษีเงินได้ลดลง ยอดขายท่ี่ดินชลอตัว และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าสุด ที่ออกมาเพื่อบรรเทาความไม่พอใจของสาธารณชน ส่งผลให้เมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณ รัฐบาลฮ่องกงจะต้องติดตัวแดง

ขุนคลังยืนยันด้วยว่า ตอนนี้เศรษฐกิจฮ่องกงต้องเจอกับความยากลำบากอย่างยิ่ง พร้อมเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงทางการเมืองได้แล้ว

เหตุประท้วงยืดเยื้อส่งผลรุนแรงต่อภาคค้าปลีกและท่องเที่ยวไปเรียบร้อยแล้ว ข้อมูลเผยแพร่เมื่อสัปดาห์ก่อนระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนแผ่นดินใหญ่ประจำเดือน ต.ค.ลดลง 46% ที่เป็นเทศกาลท่องเที่ยวสำคัญเนื่องในวันหยุดยาว “โกลเด้นวีค”

เท่านั้นยังไม่พอเศรษฐกิจยังถูกกระหน่ำจากสงครามการค้า เนื่องจากศูนย์กลางการเงินแห่งนี้ ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมสำคัญระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่ที่ปกครองในระบอบเผด็จการกับตลาดโลก

ครั้งสุดท้ายที่ฮ่องกงเคยขาดดุลงบประมาณ เกิดขึ้นหลังไวรัสซาร์สระบาดเมื่อปี 2546 ประชาชนเสียชีวิตราว 300 คน โดยปกติแล้วงบประมาณฮ่องกงจะจบปีอย่างน่าอิจฉา มีเงินเหลือติดต่อกันเป็นทุนรองรังสำหรับปีต่อๆ ไป

เมื่อเดือน มี.ค.รัฐบาลแถลงว่า ทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ที่ 1.5 แสนล้านดอลลาร์ แต่นักวิจารณ์บางคนกล่าวว่า ผู้นำยังลดความเหลื่อมล้ำได้ไม่มากพอ

เมื่อรัฐบาลยืนยันเรื่องงบประมาณขาดดุล ก็ไม่ได้ช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจกลับคืนมา เนื่องจากรัฐบาลปักกิ่งไม่ยอมอ่อนข้อให้กับวิกฤติครั้งนี้

วานนี้เช่นกันคณะกรรมาธิการการคมนาคมและการเคหะแห่งฮ่องกง ให้เวลาฮ่องกงแอร์ไลน์ 5 วัน ปรับปรุงฐานะการเงินให้ดีขึ้นภายในวันที่ 7 ธ.ค. ไม่เช่นนั้นแล้วสายการบินใหญ่อันดับ 2 ของฮ่องกงอาจถูกระงับหรือถึงขั้นถอดถอนใบอนุญาต

สายการบินแห่งนี้เป็นกิจการในเครือเอชเอ็นเอกรุ๊ป กลุ่มบริษัทของจีนที่กำลังมีปัญหาทางการเงิน ถือเป็นบริษัทใหญ่อีกหนึ่งแห่งที่ได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงมาก จนต้องประกาศเลื่อนจ่ายเงินเดือนให้พนักงานจำนวนหนึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อน

ส่วนบรรยากาศการประท้วงวานนี้ พนักงานออฟฟิศหลายร้อยคนใช้เวลาประท้วงช่วงพักเที่ยงเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่สิ้นสุดเลือกตั้งท้องถิ่น การประท้วงที่ชาร์เตอร์การ์เด้นดำเนินไป 2 ชั่วโมงเพื่อแสดงพลัง หลังจากนั้นบางคนก็กลับไปทำงาน ขณะที่หลายคนยืนยันว่าจะประท้วงทั้ง 5 วัน

ข้อน่าสังเกตคือการรวมตัวกันวานนี้มุ่งเน้นดึงพนักงานบริษัทโฆษณามาร่วมขบวนมากขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มการประชาสัมพันธ์

อ่านข่าว-จีนคว่ำบาตรเอ็นจีโอสหรัฐ-โต้หนุนเหตุรุนแรงในฮ่องกง