คลังแจกโชค 'ชิมช้อปใช้' 7 ล้านสิทธิ์
“กระทรวงคลัง” เผยยอดใช้จ่ายโครงการ “ชิมช้อปใช้” ทะลุ 2.4 หมื่นล้านบาท เฉพาะกระเป๋าช่องที่ 2 มียอดใช้จ่าย 1.3 หมื่นล้านบาท เริ่มจับรางวัลครั้งแรก ผู้มีสิทธิ์ร่วมรับโชค จำนวน 7 ล้านสิทธิ์วันที่ 20 ธ.ค.
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะเริ่มจับรางวัลครั้งแรกสำหรับผู้ที่ใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 2 โครงการชิมช้อปใช้ วันที่ 20 ธ.ค.นี้ ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ลุ้นรางวัล คือ ผู้ที่ช้จ่ายในรอบตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.-15 ธ.ค.นี้ จำนวนกว่า 7 ล้านสิทธิ์ โดยทุกยอดใช้จ่าย 1 พันบาท จะได้รับ 1 สิทธิ์ในการลุ้นรางวัล
ทั้งนี้ จะจับรางวัลทั้งหมด 6 ครั้งตามรอบการใช้จ่าย ครั้งต่อไปในวันศุกร์ที่ 3 , 10 , 17 และ 24 ม.ค.2563 และ วันจันทร์ที่ 3 ก.พ.28563 ของรางวัลมีมูลค่ารวม 12 ล้านบาท อาทิ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ โทรทัศน์ดิจิทัล และ ทองคำ เป็นต้น สำหรับยอดสะสมการใช้จ่ายตลอดระยะเวลาของมาตรการจะมีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลใหญ่เพิ่มเติมอีกด้วย ตรวจสอบสิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ชิมช้อปใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 18ธ.ค.ประกาศรางวัลผ่านเว็บชิมช้อปใช้
เขากล่าวว่า การใช้จ่ายผ่านโครงการนี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ตั้งแต่วันที่27ก.ย.-17ธ.ค.2562 มีผู้ใช้สิทธิ์รวม3เฟสจำนวน11.79ล้านราย ยอดใช้จ่าย 2.47หมื่นล้านบาท เป็นการใช้จ่ายผ่านกระเป๋าช่อง 1 ประมาณ1.16หมื่นล้านบาท และกระเป๋า2ประมาณ1.31หมื่นล้านบาท โดยยอดใช้จ่ายกระเป๋า 2 เติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยกว่า 400 ล้านบาทต่อวัน ขณะนี้มีมูลค่าสูงกว่ายอดใช้จ่ายผ่านกระเป๋าช่อง1แล้ว สะท้อนความนิยมของประชาชนต่อมาตรการดังกล่าว
ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการชิมช้อปใช้ได้เติมเงินไว้ในกระเป๋าเงินช่องที่ 2 จำนวน 4.8 แสนราย มียอดใช้จ่ายแล้ว 3.9 แสนราย ในจำนวนนี้ มียอดใช้จ่ายจำนวนที่เกินกว่า 5 หมื่นบาท(จำนวนที่จะได้รับสิทธิ์Cash back)จำนวน 1.26 หมื่นราย คิดเป็นยอดใช้จ่าย 672 ล้านบาท สำหรับการจ่ายเงินคืน(cash back) จ่ายเงินคืนครั้งแรกเมื่อวันที่15ธ.ค.2562จำนวน1.53แสนราย รวม384ล้านบาท
ส่วนประชาชนที่ยังไม่ได้รับเงินคืนเนื่องจากอยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ์ จะได้รับแจ้งข้อความทางSMSไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ ให้ประชาชนที่ยังไม่ได้รับเงินคืนติดต่อคณะทำงานด้านกฎหมายส่วนกลาง โทร.0 2270 6400กด7 หรือสำนักงานคลังจังหวัดทั่วประเทศ ในวันและเวลาราชการ เพื่อตรวจสอบข้อมูล หากถูกต้องครบถ้วนจะได้รับเงินคืนทันที
ส่วนผู้ที่เคยถูกตัดสิทธิ์จากการไม่เริ่มใช้สิทธิ์ตามมาตรการฯ ภายใน14วัน ได้มีการคืนสิทธิ์การใช้จ่ายผ่านกระเป๋าเงินช่อง2โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ซึ่งสามารถใช้สิทธิ์ได้จนถึงวันที่31ม.ค.2563 สำหรับผู้ที่เคยผ่านการยืนยันตัวตนแล้ว สามารถใส่หมายเลขPINเดิม เพื่อใช้งานและรับสิทธิ์ได้ทันที ส่วนผู้ที่ไม่เคยเข้ายืนยันตัวตน ขอให้ดำเนินการยืนยันตัวตนตามขั้นตอนในแอปพลิเคชันเพื่อรับสิทธิ์ดังกล่าว
กรณีพรรคฝ่ายค้านเตรียมนำโครงการดังกล่าวมาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เนื่องจากมีกรณีทุจริต ผู้อำนวยการสศค.กล่าวว่า โครงการดังกล่าวได้รับความนิยมจากประชาชนเป็นอย่างมาก สะท้อนจากยอดใช้จ่ายที่ผ่านกระเป๋าเงินช่องที่ 2 ที่มากกว่ากระเป๋า 1 ซึ่งเป็นกระเป๋าที่รัฐบาลจ่ายให้ 1 พันบาท และ กระบวนการต่างๆดำเนินการอย่างโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ ดังนั้น ถือว่า โครงการนี้ดำเนินการบนข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตาม เรายินดีที่จะรับฟังคำวิจารณ์ต่างๆและไม่กังวลในหัวข้อที่จะอภิปราย