สิงคโปร์หวั่นไวรัสกระทบเศรษฐกิจ
การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าจากเมืองอู่ฮั่นของจีนแน่นอนว่าต้องส่งผลกระทบไปทั่ว รวมถึงด้านเศรษฐกิจที่แม้แต่สิงคโปร์ก็โดนผลกระทบไปด้วย
สิงคโปร์ เป็นศูนย์กลางการเดินทางและท่องเที่ยวของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ปี 2562 อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำสุดในรอบ 10 ปี ที่ 0.7% ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า สิงคโปร์พบผู้ติดเชื้อ 4 ราย
ชาน ชุน ซิง รัฐมนตรีการค้าสิงคโปร์ แถลงวานนี้ (27 ม.ค.) ระบุ “เราเชื่อว่าการระบาดส่งผลกระทบต่อเศรษบกิจ ธุรกิจ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปีนี้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์จะดำรงอยู่ไปอีกสักระยะหนึ่ง”
ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงต้องพิจารณามาตรการช่วยเหลือภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบหนัก เช่น การท่องเที่ยว ที่อาจรวมถึงภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง การลดหย่อนภาษี และลดภาษีคนงาน
ในบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเยือนสิงคโปร์ชาวจีนมีจำนวนมากที่สุด ตอนที่โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส) ระบาด เมื่อปี 2546 คร่าชีวิตประชาชนทั่วโลกราว 800 คน สิงคโปร์จึงเป็นอีกประเทศหนึ่งที่เสียหายหนัก ส่วนเศรษฐกิจปีนี้สิงคโปร์คาดว่า เติบโตระหว่าง 0.5-2.5%
ชานเป็นหนึ่งในคณะทำงานของรัฐบาลที่ตั้งขึ้นมารับมือการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าในสิงคโปร์
วานนี้ คณะทำงานประกาศชุดมาตรการใหม่เพื่อระงับการแพร่ระบาดของไวรัส เช่น เรียกร้องให้นักเรียนและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เพิ่งเดินทางไปจีนอยู่กับบ้าน 2 สัปดาห์ ตอนนี้ชาวสิงคโปร์ที่มีเชื้อสายจีนและมีญาติที่จีนแผ่นดินใหญ่หลายคนเดินทางไปเที่ยวที่นั่นในช่วงวันหยุดตรุษจีน
นอกจากนี้คณะทำงานยังออกคำแนะนำฉบับใหม่แก่นักเดินทางงดเว้นการไปจีนแผ่นดินใหญ่โดยไม่จำเป็น และจะเริ่มตรวจอุณหภูมิทุกเที่ยวบินที่เข้ามาสิงคโปร์
ส่วนการนำชาวสิงคโปร์ที่ติดอยู่ในเมืองอู่ฮั่นกลับประเทศนั้น ขณะนี้กำลังประสานกับทางการจีน
จานิล พุธูเชียรี รัฐมนตรีคมนาคมอาวุโส หนึ่งในคณะทำงานเผยว่า เจ้าหน้าที่ติดต่อกับชาวสิงคโปร์ในเมืองแล้ว และกำลังหาทางเลือกนำตัวคนเหล่านั้นกลับประเทศ รวมถึงการประสานกับสายการบิน
“เรากำลังประสานกับทั้งทางการจีนและเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อหาช่องทางที่เราสามารถทำได้ เมื่อสถานการณ์ชัดเจนจะแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมให้ทราบ” รัฐมนตรีกล่าว ส่วนจะใช้เวลาในการหารือนานแค่ไหนนั้น จานิลกล่าวว่าสิงคโปร์จำเป็นต้องดำเนินการผ่านทางการจีน สถานการณ์ในพื้นที่ค่อนข้างยุ่งยาก การทำงานในพื้นที่ยากลำบาก
“เราต้องแน่ใจว่าไม่ไปเพิ่มภาระให้เขาในแง่ของการยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง”
อู่ฮั่นปิดเมืองตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค.การคมนาคมไม่ว่าจะเป็นรถไฟ รถบัส เรือโดยสาร ห้ามเข้าออกจากเมือง ส่วนที่ออกไปแล้วเจอคำสั่งให้กลับมา สายการบินหลายแห่งรวมทั้งสกู๊ต สายการบินราคาประหยัดในเครือสิงคโปร์แอร์ไลน์ ยกเลิกเที่ยวบินเข้าออกอู่ฮั่นด้วย
การปิดเมืองส่งผลกระทบประชาชนหลายสิบล้านคน แต่จำเป็นต้องทำเพื่อชลอการกระจายตัวของไวรัส
รายงานข่าวจากเมืองอู่ฮั่นมีแต่ภาพชาวบ้านกังวลเรื่องอาหารขาดแคลน ต้องรอคิวกันรอรักษาในโรงพยาบาล และภาพการติดเชื้อ
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงของจีนแถลงด้วยว่า แม้ไวรัสตัวนี้อาจกระจายได้แรงกว่าซาร์ส แต่ไม่ร้ายแรงเท่าซาร์ส แต่ลอว์เรนซ์ หว่อง ประธานคณะทำงานร่วมสิงคโปร์ แนะว่า สิงคโปร์ต้องเตรียมตัวไว้ว่า ไวรัสตัวใหม่อาจระบาดแรงกว่าซาร์ส แต่ตอนนี้ยังเร็วเกินกว่าจะนำไปเทียบกัน
“ผู้เชี่ยวชาญการแพทย์บอกเราว่า ตอนนี้ไวรัสใหม่ยังติดต่อกันไม่เท่าซาร์ส อัตราการเสียชีวิตก็ต่ำกว่าแต่สถานการณ์พัฒนาไปเร็วมาก อย่างที่คุณได้ยินจากทางการจีนเมื่อวันอาทิตย์ที่ว่าไวรัสแข็งแกร่งขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มเพิ่มจำนวน เราจึงต้องเตรียมใจไว้ว่าสถานการณ์อาจแย่กว่าซาร์ส”
ตอนซาร์สระบาดในปี 2546 มีผู้ติดเชื้อในสิงคโปร์ 238 คน เสียชีวิต 33 คน รวมทั้งแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ไวรัสซาร์สติดต่อผ่านการสัมผัสของเหลวจากร่างกายผู้ติดเชื้ออย่างใกล้ชิด และเมื่อมีประสบการณ์จากซาร์สมาแล้ว สิงคโปร์จึงมีบทเรียนรับมือโรคระบาดได้ดีกว่าเดิม
"รัฐบาลเตรียมทรัพยากรทุกอย่างที่มีต่อสู้กับไวรัส ท่าทีของเราคือเตรียมการไว้ก่อนและปฏิบัติการอย่างรวดเร็วเท่าที่เราทำได้ แต่ทุกความเคลื่อนไหวจะต้องยืนอยู่บนหลักฐาน ข้อมูล และคู่มือการแพทย์ระหว่างประเทศ ผมไม่คิดว่าเราต้องการปฏิบัติตามรายงานข่าว 1 หรือ 2 ชิ้น โดยที่ยังไม่แน่ใจว่าเป็นข้อสรุปหรือไม่แล้วทำเกินไป แบบนั้นไม่ใช่วิถีของสิงคโปร์" ประธานร่วมคณะทำงานยืนยัน