'จับตา' ทั่วโลกอัดมาตรการ เยียวยาพิษ 'โควิด19'
เงินบาทสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.15-31.695 บาทต่อดอลลาร์ และปิดตลาดที่ระดับ 31.60 บาทต่อดอลลาร์ "ดอลลาร์แข็งค่า" เมื่อเทียบกับค่าเงินส่วนใหญ่
หลังรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ครั้งล่าสุด ระบุว่ากรรมการเฟดส่วนใหญ่มองเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งมากกว่าคาดการณ์ ขณะที่นักลงทุนบางส่วนมีมุมมองเชิงบวก จากที่ทางการจีนมีแนวโน้มจะใช้นโยบายการเงินและการคลังผ่อนคลายมากขึ้นเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจจีนที่ถูกกระทบอย่างหนักจากวิกฤติโรคโควิด-19
ในช่วง 1 สัปดาห์ข้างหน้า “ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย” คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.30-31.80 บาทต่อดอลลาร์ จับตาสถานการณ์ และผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา ขณะเดียวกัน "มาตรการทางการเงินและการคลัง" ของแต่ละประเทศมีแนวโน้มถูกนำมาใช้มากขึ้น จะส่งผลต่อตลาดการเงินโดยตรงรวมทั้งส่งผลต่อการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจ
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ ( 21ก.พ.) ปิดการซื้อขายที่ 1,495.09 จุด เพิ่มขึ้น 3.85 จุด หรือ 0.26% มูลค่าการซื้อขาย 56,082.16 ล้านบาท "บล.โนมูระ พัฒนสิน" ระบุว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าดัชนีฯมีโอกาสปรับตัวรีบาวด์ หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาผ่อนคลายลง ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศ โดยเฉพาะการเมืองมีความชัดเจนมากขึ้น หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งทำให้นักลงทุนเริ่มกลับมาซื้อขายหุ้น ประเมินกรอบดัชนีฯไว้ที่ระดับ 1,475-1,535 จุด
ด้านความเคลื่อนไหวของราคาทองคำอยู่ที่ 1,633.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำในประเทศอยู่ที่ 24,400 บาทต่อบาททองคำ "วายแอลจี บูลเลี่ยนอินเตอร์เนชั่นแนล" แนะนําสําหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ สามารถหาจังหวะเก็งกําไรระยะสั้น โดยรอจังหวะเข้าซื้อบริเวณแนวรับ 1,625-1,623 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายทํากําไรหากดีดตัวขึ้นไม่ผ่านโซน 1,644 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุดแนวรับดังกล่าว แนะนําให้ชะลอการเข้าซื้อ โดยประเมินแนวรับถัดไปบริเวณ 1,612-1,603 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตัดขาดทุนหากหลุด 1,603 ดอลลาร์ต่อออนซ์