น่าตกใจ! ผู้ป่วยใหม่ วัยรุ่น พฤติกรรมเสี่ยง
แพทย์ชี้ผู้ป่วยรายใหม่ที่พบช่วงนี้ ส่วนใหญ่เป็นวัยหนุ่มสาว วัยทำงาน ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ไม่ลดกิจกรรมทางสังคม ย้ำผู้ที่เคยไปสนามมวย สถานบันเทิง ควรกักตัวเองอย่างน้อย 14 วัน หากไม่มีอาการ ยังไม่จำเป็นต้องตรวจ ขอให้ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 มีนาคม 2563 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน สาธารณสุขนิเทศ และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 ระบุว่า ผู้ป่วยรายใหม่ที่พบในช่วงนี้เป็น วัยหนุ่มสาว วัยทำงาน มีพฤติกรรมเสี่ยง ไม่ลดกิจกรรมทางสังคม ไม่เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อาจทำให้นำโรคไปติดคนใกล้ชิดในครอบครัว รวมทั้งเพื่อนๆ ที่สำคัญโรคนี้มีความรุนแรงในกลุ่มเปราะบาง คือ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้มีโรคประจำตัว
“สำหรับผู้ที่เคยไปในพื้นที่ที่มีรายงานผู้ป่วย อาทิ สนามมวย สถานบันเทิง สนามชนไก่ ชมมหรสพ ให้กักกันตัวเองที่บ้านอย่างเคร่งครัด อย่างน้อย 14 วัน ไม่อยู่ใกล้ชิดผู้อื่น สังเกตอาการ หากยังไม่มีอาการ ไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ยังไม่ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อ เพราะหากยังไม่มีอาการโอกาสตรวจพบเชื้อมีน้อยมาก จะทำให้ขาดการระมัดระวังตัวเองนึกว่าไม่ติดเชื้อ หรือโทรรายงาน 1422 เพื่อให้มีข้อมูล”
นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลายคน เริ่มมีความกังวลในการติดตามข่าว ขอให้ประชาชนยึดหลักปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข งดร่วมกิจกรรมทางสังคม เว้นระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย 1 เมตร ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก งด/ลด การเดินทางโดยไม่จำเป็น ไม่ไปในพื้นที่แออัด ทำงานอยู่ที่บ้าน หากประชาชนช่วยกันปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัด จะทำให้ช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคได้
สำหรับสถานการณ์วันที่ 21 มีนาคม 2563 ณ เวลา 08.00 น. พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่ม 89 ราย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 51 ราย ได้แก่ กลุ่มสนามมวย 32 ราย ซึ่งกระจายไปอยู่ทั้งกรุงเทพมหานคร อุบลราชธานี สมุทรปราการ กาญจนบุรี ลพบุรี ปทุมธานี สุราษฎ์ธานี และสุรินทร์ ,กลุ่มสถานบันเทิง 2 ราย ในกรุงเทพมหานครบริเวณเอกมัย และสุขุมวิท , กลุ่มผู้สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานมาแล้ว 11 ราย และกลุ่มที่เข้าร่วมพิธีทางศาสนาในประเทศมาเลเซีย 6 ราย ปัตตานี นราธิวาส และยะลา
กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 38 ราย ได้แก่ กลุ่มผู้เดินทางจากต่างประเทศ/ชาวต่างชาติ 12 ราย แบ่งเป็น คนไทย 6 ราย ต่างชาติ 6 ราย ในจำนวนนี้มีหลายรายที่มีประวัติเดินทางกลับจากเที่ยวผับปอยเปต ที่ประเทศกัมพูชา ร่วมกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้ , กลุ่มผู้ทำงานหรืออาศัยในสถานที่แออัดต้องใกล้ชิดคนจำนวนมาก หรือเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ 6 ราย และรอผลสอบสวนโรค/ประวัติเสี่ยงเพิ่มเติม 20 ราย ซึ่งการทำงานมากขึ้น ทำให้ต้องสอบสวนว่าเชื่อมโยงกับใครเพิ่มเติม
สำหรับผู้ป่วยอาการหนักมี 7 ราย จาก สถาบันบำราศนราดูร โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาลบาลเอกชน ทุกรายใส่เครื่องช่วยหายใจ และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยสรุป มีผู้ป่วยกลับบ้านแล้ว 44 ราย ยังรักษาในโรงพยาบาล 366 ราย เสียชีวิต 1 ราย รวมสะสม 411 ราย
ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม – 20 มีนาคม 2563 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 9,670 ราย คัดกรองจากทุกด่าน 335 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 9,335 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 5,937 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 3,733 ราย
สถานการณ์ทั่วโลกใน 179 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 1 นครรัฐ 2 เรือสำราญ ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม – 21 มีนาคม 2563 (07.00 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 265,867 ราย เสียชีวิต 11,179 ราย ส่วนประเทศจีนพบผู้ป่วย 80,967 ราย เสียชีวิต 3,248 ราย
นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อกระทรวงสาธารณสุข ได้รับรายงานผู้ป่วยรายใหม่ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเข้าควบคุมสอบโรคทันทีภายใน 12 ชั่วโมงและรายงานจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ไปยังองค์การอนามัยโลกทุกวัน ในการรายงานผู้ป่วยต้องมีผลสอบสวนโรคประกอบกับผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ทำให้ข้อมูลที่รายงานแต่ละวันเป็นการทบยอดข้อมูลสะสมบางวันอาจมีรายงานผู้ป่วยจำนวนมากหรือไม่ตรงกับข้อมูลในพื้นที่ ดังนั้น เพื่อให้ทันเหตุการณ์กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ให้จังหวัดรายงานผู้ป่วยรายใหม่เบื้องต้นได้ทันทีหลังจากมีผลยืนยันทางห้องปฏิบัติการ
“สำหรับการเตรียมตัวเพื่ออยู่ในบ้าน เป็นเรื่องที่เราต้องปรับตัว ภาครัฐค่อยๆ ปรับระดับให้เราได้ปรับตัว ถือว่าเป็นมาตรการที่เราต้องให้ความร่วมมือ วันนี้หลายคนก็สั่งอาหารเดลิเวอรี่ เป็นเรื่องที่ดี หรือทำกับข้าวเอง เมืองไทยเราอู่ข้าวอู่น้ำ หลายบริษัท ที่ผลิตอาหาร เช่นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป สามารถผลิตได้เพียงพอ ไม่มีปัญหาอยู่แล้วเรื่องอาหารการกิน เป็นสิ่งสำคัญที่เราแตกต่างจากประเทศซีกโลกเหนือบางประเทศ ปรับตัวสักนิด เชื่อว่าคนไทยปรับตัวได้ง่าย” นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว
นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีแพรวา ดาราสาวที่ติดเชื้อโควิด-19 ว่า สำหรับกรณีคุณแพรวา อยู่ในกลุ่มระหว่างสอบสวนและประวัติเพิ่มเติม รวบรวมข้อมูลความสัมพันธ์และปัจจัยเสี่ยง หลักากรสำคัญคือ หากพบผู้ป่วยต้องมีการระบุผู้ที่มีความเสี่ยงสูง คือ สัมผัสใกล้ชิดในระยะ 1 เมตร เช่น พูดคุยกัน 5 นาที ก็ต้องขึ้นทะเบียนไว้ หากผู้ป่วยช่วยลิสต์รายชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง ก็จะทำให้การสอบสวนโรคทำได้เร็วขึ้น และแจ้งผู้สัมผัสเสี่ยงสูงให้เริ่มกักตัวเองอยู่ที่บ้าน เพื่อลดความเสี่ยงแพร่เชื้อต่อ แต่ผู่สัมผัสไม่ใช่ว่าจะได้รับเชื้อทุกคน จากข้อมูลพบว่า การตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 100 คน จะมีเพียง 2 คนที่ได้รับเชื้อ ดังนั้น คนส่วนใหญ่ที่อยู่ใกล้ชิดส่วนใหญ่ยังปลอดภัยแต่ต้องป้องกันไว้ก่อน
“สำหรับการติดตามเคสนามมวย ตอนนี้ติดตามได้เกือบ 100 คนแล้ว แต่วันนี้ 32 คนคือรายใหม่ เพราะสนามมวยมีคนไปหลักพันคน แต่ความเสี่ยงจะเริ่มลดลงเพราะวันที่สัมผัสโรคคือ 6 มีนาคม ระยะฟักตัวยาวสุด 2 อาทิตย์ และผู้ป่วยที่รายงานล่าสุดป่วยเมื่อ 2 – 3 วันที่แล้ว อย่างไรก็ตาม กลุ่มเสี่ยงจะต้องสังเกตอาการตัวเองต่อ” นายแพทย์โสภณ กล่าว
ขอความร่วมมือประชาชนทุกคน ตื่นตัว และรับผิดชอบต่อสังคม ตลอดจนติดตามสถานการณ์และข้อมูลข่าวสารได้ที่เว็บไซต์ https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia /และ “ไทยรู้ สู้โควิด” ทาง Twitter, Facebook, Line official, TikTok และChatBot 1422 ทาง ID : @COVID-19 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง อย่าเชื่อข่าวลือจากทุกทาง “เช็คก่อนแชร์” ตรวจสอบข่าวลวงได้ที่ www.antifakenewscenter.com