ธุรกิจญี่ปุ่นหนุน'อาเบะ'ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

ธุรกิจญี่ปุ่นหนุน'อาเบะ'ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

บรรดาผู้นำธุรกิจในญี่ปุ่นต่างขานรับแผนการของรัฐบาลที่จะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตเมืองบางพื้นที่ เพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

นายฮิโรอากิ นากานิชิ ประธานสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น(ไคดันเรน) ซึ่งเป็นองค์กรภาคธุรกิจที่มีอิทธิพลมากที่สุดของญี่ปุ่น กล่าวว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินควรมีขึ้นก่อนที่ระบบสาธารณสุขจะพังลง

“หากมีการประกาศ ภาครัฐและภาคเอกชนจะได้รวมพลังกัน และจัดการกับสถานการณ์ได้อย่างเต็มที่” ประธานไคดันเรน กล่าว

ขณะเดียวกัน นายนากานิชิยังเรียกร้องให้รัฐบาลสร้างความมั่นใจว่า บริการที่จำเป็นและโครงสร้างพื้นฐานที่มีความสำคัญจะยังคงดำเนินไปได้ ท่ามกลางการต่อสู้กับการแพร่ระบาดที่คาดว่าจะยังคงต้องใช้เวลาอีกยาวนาน

ด้านนายฮิโรชิ มิกิตานิ ซีอีโอบริษัทราคูเท็น ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของญี่ปุ่น ในฐานะผู้แทนอำนวยการของสมาคมเศรษฐกิจใหม่ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ประกอบไปด้วยบริษัทเทคโนโลยี เป็นผู้หนึ่งที่เรียกร้องให้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว

นอกจากนี้ ไคดันเรน ยังเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมทั้งให้การสนับสนุนทางเศรษฐกิจแก่ประชาชนและธุรกิจ โดยได้มีการออกแถลงการณ์เรียกร้องเมื่อวันเสาร์(4เม.ย.)ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่มีการรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ในโตเกียวมากกว่า 100 คนเป็นครั้งแรก

ขณะที่นายเคนโกะ ซาดุระดะ ประธานสมาคมซีอีโอญี่ปุ่น แสดงการสนับสนุนการตัดสินใจนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ เช่นกัน โดยกล่าวว่า ญี่ปุ่นอยู่ในสถานการณ์วิกฤตและหลายชีวิตอาจอยู่ในความเสี่ยง
ขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของญี่ปุ่นในเดือนมี.ค. ดิ่งลงแตะระดับต่ำที่สุดในรอบ 11 ปี ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยสำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของครัวเรือนที่ประกอบด้วยสมาชิกตั้งแต่สองคนขึ้นไป อยู่ที่ 30.9 ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุด นับตั้งแต่ที่เคยแตะที่ระดับ 29.4 เมื่อเดือนมี.ค.2552 ในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินทั่วโลก

ดัชนีร่วงลงเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน โดยลดลง 7.4 จุดจากระดับ 38.3 ในเดือนก.พ. ซึ่งตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่า ผู้บริโภคที่มีมุมมองเป็นลบนั้นมีจำนวนมากกว่าผู้ที่มีมุมมองบวก

นอกจากนี้ ตัวเลขที่ลดลง 7.4 จุด ยังเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2547 เมื่อครั้งที่สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเริ่มทำผลสำรวจเป็นประจำทุกเดือน