เชียงใหม่แยก 4 กลุ่มธุรกิจวางแผนเตรียมผ่อนปรน

 เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 29 เมษายน 2563 ที่ ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจ จังหวัดเชียงใหม่ (ศ.ข.ฉ.ก)  นพ.ศิริพจน์ ศรีบัณฑิตกุล รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลนครพิงค์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 หรือ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โรคโควิด-19 (COVID-19) รายใหม่เพิ่ม ยืนยันผู้ติดเชื้อในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 40 ราย กลับบ้าน 31 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาล 8 ราย เสียชีวิต 1 ราย ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรคสะสม 1,295 ราย กลับบ้าน 1,241 ราย อยู่ในโรงพยาบาล 54 ราย

มีผู้ที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล สะสม 16,050 ราย กักตัวในที่พัก 950 ราย กักตัวครบ 14 วันแล้ว 15,100 ราย มีผู้เดินทางมาจากเขตติดโรคติดต่ออันตรายและพื้นที่ที่ระบาดต่อเนื่อง เข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 1,509 ราย กักตัวครบทั้ง 14 วัน ทั้งหมดแล้ว มีผู้ที่พักอยู่ใน Local Quarantine ของจังหวัดเชียงใหม่จำนวน 1 ราย ที่ โรงแรมบีพี เชียงใหม่ ซิตี้

 สำหรับมาตรการการผ่อนปรนในแต่ละกลุ่มกิจการ คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมกันพิจารณากันหลายครั้ง เพื่อกำหนดมาตรการให้แต่ละกิจการได้มีการวางแผนปรับมาตรการในการป้องกันดูแล ควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโรคโควิด-19 ตามความสำคัญของเศรษฐกิจ โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มสีเขียว เป็นกลุ่มที่มีมาตรการชัดเจน มีแนวทางในการกำกับติดตาม ได้แก่ ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ห้างร้าน สถานศึกษา / สถาบันกวดวิชา , กลุ่มสีเหลือง เป็นกลุ่มที่มีมาตรการยังไม่ครอบคลุม แต่มีแนวทางในการกำกับ ได้แก่ ตลาด ร้านนวดสปา ร้านตัดผม / เสริมสวย คลินิกทันตกรรม โรงภาพยนตร์ คลินิกเสริมความงาม สนามกอล์ฟ ซึ่งกลุ่มสีเขียวและสีเหลือง จะเป็น 2 กลุ่มแรก ที่เตรียมพร้อมในการผ่อนปรนมาตรการ

กลุ่มสีส้ม เป็นกลุ่มที่มีมาตรการไม่ครอบคลุม และแนวทางกำกับไม่ชัดเจน ได้แก่ สนามกีฬา สวนสาธารณะ ร้านคาราโอเกะ ฟิตเนส ลานสเก็ต สนามยิงปืน สนามชนไก่ / สนามม้า และ กลุ่มสีแดง เป็นกลุ่มที่ไม่มีมาตรการและแนวทางกำกับที่ชัดเจน ได้แก่ ถนนคนเดิน สระว่ายน้ำ สถานบันเทิง สนามมวย ศูนย์พระเครื่อง บ่อตกปลา / บ่อตกกุ้ง เครื่องเล่น กิจการอาบน้ำ

สำหรับสีส้ม และสีแดง จะต้องปรับปรุง เพิ่มมาตรการให้ชัดเจนในการกำกับดูแล เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้พิจารณาเปลี่ยนสถานะของธุรกิจ ซึ่งทั้งหมดเป็นแนวทางให้แต่ละธุรกิจได้เตรียมความพร้อม หากภาครัฐผ่อนปรนมาตรการ ก็สามารถดำเนินกิจการต่อได้ทันที โดยต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องโครงสร้างของธุรกิจ มาตรการการจำกัดคนเข้า - ออก เช่น ร้านอาหาร อาจต้องมีการเช็คอิน การสแกนคิวอาร์โค้ด แสดงตัวตน ให้ทราบว่ามีใครเข้ามาใช้บริการที่ร้านบ้าง หากมีปัญหาสามารถติดตามตัวได้ทันที มีเจลล้างมือบริการทุกประตูทางเข้า มีการใช้หน้ากาก เคานท์เตอร์บริการจะต้องมีอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ม่านพลาสติก เพื่อความปลอดภัยของทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ

ผู้ที่ต้องการทราบมาตรการการกลับมาเปิดธุรกิจ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโรคโควิด-19 สามารถดาวน์โหลดคิวอาร์โค้ดได้จาก เพจ ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในนั้นจะมีรายละเอียดของแต่ละกิจการว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง เพื่อจะสามารถกลับมาเปิดกิจการได้อย่างปลอดภัย สำหรับสถานประกอบการที่ต้องส่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการแนวทางจัดการเพิ่มเติม เพื่อกลับมาเปิดดำเนินกิจการ สามารถส่งข้อมูลได้ที่ [email protected] โดยจะมีเจ้าหน้าที่รวบรวมพิจารณาเพื่อหาคำตอบที่เหมาะสมที่สุดเพื่อความปลอดภัยของชาวเชียงใหม่

ส่วนแนวทางการพิจารณาตามมติ ครม. ซึ่งใกล้เคียงกับแนวทางของจังหวัดเชียงใหม่ แบ่งการพิจารณาเป็น กลุ่มธุรกิจสีขาว เป็นกลุ่มธุรกิจที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ได้แก่ ร้านอาหาร ตลาด ร้านตัดผม / เสริมสวย ร้านค้าขนาดเล็ก ซึ่งจะเป็นกลุ่มแรกที่จะเปิดดำเนินการได้ก่อน ถ้ามีการคลายล็อกออกมา โดยแนวโน้มอยากที่จะให้เปิดพร้อมกันทั่วประเทศ ทั้งนี้ ต้องดูความพร้อมของแต่ละจังหวัดเป็นหลัก

กลุ่มธุรกิจสีเขียว ได้แก่ ร้านขนาดเล็กติดแอร์ที่มีพื้นที่ไม่มาก และมีมาตรการควบคุมชัดเจน เช่น สนามออกกำลังกายกลางแจ้ง ร้านนวด สปา สถานศึกษา สถาบันกวดวิชา คลินิกทันตกรรม คลินิกเสริมความงาม สนามกอล์ฟ สวนสาธารณะ สนามกีฬากลางแจ้ง สระว่ายน้ำ

กลุ่มธุรกิจสีเหลือง เป็นกิจการที่มีพื้นที่ปิดขนาดใหญ่ คนใช้บริการจำนวนมาก ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า ห้างร้าน โรงภาพยนตร์ ฟิตเนส ลานสเก็ต สนามชนไก่ / สนามม้า สนามยิงปืน และ กลุ่มธุรกิจสีแดง เป็นกิจการที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ สนามมวย สถานบันเทิง ถนนคนเดิน ศูนย์พระเครื่อง บ่อตกปลา / บ่อตกกุ้ง เครื่องเล่น กิจการอาบน้ำ