ผู้เชี่ยวชาญเตือนโควิด-19ระบาดหนักหลังชาวอเมริกันแห่ออกนอกบ้าน
ผู้เชี่ยวชาญเตือนโควิด-19ในสหรัฐระบาดหนักหลังชาวอเมริกันแห่ออกนอกบ้านขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตทั่วประเทศยังเพิ่มต่อเนื่อง
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ชาวอเมริกันในหลายรัฐ ตั้งแต่นิวยอร์กไปจนถึงแคลิฟอร์เนียพากันออกมานอกบ้านในช่วงสุดสัปดาห์ โดยมีทั้งกลุ่มที่ออกมาเพื่อพักผ่อนและกลุ่มที่ออกมาชุมนุมประท้วงรัฐบาล
ขณะนี้มีรัฐต่างๆประมาณ 30 รัฐในสหรัฐที่เริ่มใช้นโยบายผ่อนคลาย หรือยกเลิกมาตรการล็อคดาวน์ ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้น โดยข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ ระบุว่า มีผู้ติดเชื้อทั่วสหรัฐประมาณ 1,150,000 ราย และเสียชีวิตจำนวนกว่า 67,000 ราย
ทั้งนี้ ที่รัฐแคลิฟอร์เนียยังคงใช้มาตรการล็อคดาวน์ต่อไป แต่มีประชาชนจำนวนหนึ่งออกมาชุมนุมประท้วงแต่มีบางเขตทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนียที่อนุญาตให้ธุรกิจต่าง ๆ เช่น ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้า เริ่มเปิดบริการได้ในวันนี้ (4พ.ค.)
ส่วนที่รัฐอาร์คันซอส์ อนุญาตให้ยิมและสถานที่ออกกำลังกายต่าง ๆ เปิดบริการได้ในวันจันทร์ เช่นเดียวกับที่รัฐโคโลราโด ที่อนุญาตให้สำนักงานและภาคธุรกิจเปิดทำการได้ แต่ยังคงจำกัดจำนวนพนักงานและลูกค้าให้ใช้บริการได้แค่ 50%
ดร.เดบอราห์ เบิร์กซ์ ผู้ประสานงานคณะทำงานพิเศษประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า รู้สึกเป็นกังวลอย่างมากที่ชาวอเมริกันจำนวนมากพากันออกมาข้างนอกในช่วงสุดสัปดาห์ และไม่สนใจมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม แม้การระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐยังคงรุนแรงอยู่ ซึ่งคณะทำงานของทำเนียบขาว ระบุว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรัฐใดที่เข้าข่ายสามารถผ่อนคลายหรือยกเลิกมาตรการล็อคดาวน์ได้ตามที่ทำเนียบขาวกำหนด คือต้องมีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงสองสัปดาห์ติดต่อกัน