'อุตตม' ยันหนี้เสียไม่ท่วมระบบ ธปท.และพาณิชย์ รับมือได้
“อุตตม”เผย ธปท.และพาณิชย์ยืนยันรับมือปัญหาหนี้เสียได้ ชี้เคยผ่านวิกฤตมาก่อน ขณะที่ ผลกระทบโควิด-19 เกิดในช่วงที่แบงก์มีความเข้มแข็ง แต่ไม่วางใจเตรียมพร้อมด้านเงินทุนสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจให้เดินหน้าต่อได้
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และธนาคารพาณิชย์ถึงข้อกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์หนี้เสียที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งได้รับการยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่น่ากังวล เพราะทั้งธปท.และธนาคารพาณิชย์ได้มีแนวทางรับมืออยู่แล้ว เพราะเคยผ่านวิกฤตมาก่อน ขณะเดียวกัน ขณะนี้ ธนาคารพาณิชย์ก็มีความแข็งแกร่ง อย่างไรก็ดี ในส่วนของคลัง ก็ไม่ได้วางใจ ซึ่งขณะนี้ ก็เตรียมพร้อมที่จะเสริมความเข้มแข็งให้แก่ภาคธุรกิจ
เขากล่าวว่า เหตุที่ธปท.และแบงก์พาณิชย์ไม่กังวล เพราะเขาก็ดูแลเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่ และตอนนี้ สถานการณ์เงินกองทุนก็เข้มแข็ง และอย่าลืมว่า แบงก์ผ่านวิกฤตมาแล้ว เขารู้จะเตรียมตัวอยบ่างไร สำคัญมาก ธปท.ก็ผ่านมาแล้ว รอบนี้ก็รู้เรื่องการดูแลระบบแบงก์ทำอย่างไร แต่ไม่ได้วางใจไม่ดูแลกันเลย
“ขอย้ำว่า ไม่มีความกังวลในเรื่องนั้น ยืนยัน ทางธปท.และธนาคารพาณิชย์ก็ยืนยัน ถือเป็นข้อดี วิกฤตครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ธนาคารพาณิชย์มีความแข็งแกร่ง เป็นวิกฤตที่มาจากความต้องการ(อุปสงค์ที่ต้องการใช้เงิน)ไม่ใช่อุปทาน หรือของไม่ดี ถ้าเศรษฐกิจเริ่มผ่อนคลาย สถานการณ์โดยตัวมันเองจะกลับมา”เขากล่าวภายหลังเป็นประธานหารือร่วมกับผู้ว่าการธปท. ประธานสมาคมธนาคารไทยและผู้บริหารสำนักงานเศรษฐกิจการคลังวานนี้(29มิ.ย.)
อย่างไรก็ดี เราไม่ได้วางใจ ซึ่งที่ผ่านมาเราทำมาตลอดในการดูแลผู้ประกอบการให้มีสภาพคล่อง พอเหตุการณ์เริ่มผ่อนคลายเศรษฐกิจเริ่มฟื้นเราก็ต้องดูแลให้เขามีกำลังเดินใหม่หรือขยายงานได้ ดังนั้น ในวันนี้ ก็มาหารือว่า จะหาแนวทางดูแลพวกที่อยู่ชายขอบอย่างไร และช่วงฟื้นฟูจะมีมาตรการไปช่วย วันนี้ ก็เริ่มถกกัน แต่ยังไม่สรุป
สำหรับหนึ่งในแนวทางการดูแลผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในขณะนี้ คือ การใช้กองทุนที่จะมีการจัดตั้งขึ้นมาใหม่มาสนับสนุนด้านเงินทุน โดยกองทุนนี้ จะมีสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.)เป็นผู้ดูแล ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ รัฐบาลก็มีมาตรการสนับสนุนเงินทุนเพื่อแป็นสภาพคล่องแก่เอสเอ็มอีผ่านซอฟท์โลนของธปท.และธนาคารพาณิชย์ ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่ดี โดยซอฟท์โลนของธปท.ก็ส่ามารถปล่อยได้แล้วราว 9 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ กรณีที่รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจออกมาระบุว่า นับจากเดือนก.ค.ธุรกิจจะทยอยปิดกิจการมากขึ้น เขากล่าววว่า ก็เข้าใจ ดังนั้น เราก็เริ่มดูแลสภาพคล่องให้เขาสามารถอยู่ได้ พยายาให้จ้างงาน พอตอนต่อไปต้องเริ่มคิดว่า เมื่อเขาอยู่ได้ ต้องช่วยเขาขยายธุรกิจและปรับโครงสร้างตัวเอง