ส่องอภิสิทธิ์ ‘Elite Card’ เศรษฐีต่างชาติ จ่ายหลักล้าน แลกสิทธิ์อยู่ไทยอย่างเอ็กซ์คลูซีฟ
ทำความรู้จัก "Thailand Elite Card" อภิสิทธิ์สำหรับชาวต่างชาติเงินหนา ที่ต้องการอาศัยในประเทศไทย ด้วยการจ่ายเงินสูงสุด 2 ล้านบาท แลกกับสิทธิ์พิเศษต่างๆ
นับเป็นเวลากว่า 17 ปีที่ประเทศไทย ได้คลอด Thailand Elite Card หนึ่งในโครงการที่ดำเนินการขึ้นเพื่อมอบสิทธิพิเศษให้กับชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางเข้ามา ทั้งเพื่อท่องเที่ยวและทำธุรกิจในประเทศไทย โดยการจ่ายเงินหลักล้านเพื่อซื้อแพ็คเกจและสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อเดินทางหรืออาศัยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งสิทธิพิเศษที่ได้รับมากน้อยขึ้นอยู่กับแพคเกจที่ซื้อ แต่จะมากกว่าการเดินทางเข้ามาโดยปกติแน่นอน
และหากใครจำกันได้ กรณีเหตุการณ์ทีมหมูป่าอะคาเดมีที่ติดถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย นอกจากจะได้เห็นปรากฏการณ์ของความร่วมมือจากทั่วประเทศ แต่ยังมีองค์กรหรือบุคคลต่างชาติที่เข้ามาช่วยในครั้งนั้นด้วย หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจนำทีมหมูป่าอะคาเดมีออกมาได้ ไม่นานนักได้มีการเปิดตัวบัตรอีลิทคาร์ดรุ่นพิเศษ “Elite Friend of Thailand” ขึ้นมาเป็นโอกาสพิเศษให้กับอาสาสมัครชาวต่างชาติที่เข้ามาข่วยเหลือด้วย
หรือล่าสุด สดๆ ร้อนๆ จากการรายงานข่าวของ นิกเคอิ อ้างคำสัมภาษณ์ของ สมชัย สูงสว่าง ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (Thailand Privilege Card) ตัวแทนจัดหาวีซ่าสำหรับชาวต่างชาติฐานะดีและต้องการพักอาศัยในประเทศไทยระยะยาวที่เรียกว่า "อีลิทคาร์ด" (Elite Card) โดยระบุว่า มีชาวฮ่องกงยื่นขอวีซ่าประเภทนี้เพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ระหว่างเดือน เม.ย.-มิ.ย.
นอกจากนี้ "นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน" โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ยังได้เปิดเผยถึงมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 6 โดยจะมีการอนุญาตให้กลุ่มชาวต่างชาติ 4 กลุ่ม เดินทางเข้าประเทศ คือ กลุ่มที่ 1 ชาวต่างชาติที่เข้ามาจัดการแสดงสินค้าซึ่งในเดือนกันยายน 2563 จะมีจัด 1 งาน ผู้เข้าร่วมประมาณ 680 คน, ตุลาคม 8 งาน กว่า 400 คน และพฤศจิกายน 4 งานกว่า 4,000 คน กลุ่มที่ 2 ชาวต่างชาติที่มาถ่ายทำภาพยนตร์ กลุ่มที่ 3 ชาวต่างชาติที่เข้ามารับการรักษาพยาบาล และกลุ่มที่ 4 ชาวต่างชาติที่ถือบัตรสมาชิกพิเศษของประเทศไทย (Thailand Elite Card) ซึ่งมี 10,363 ราย อยู่ในประเทศไทยแล้ว 3,108 ราย และอยู่นอกประเทศ 7,255 ราย โดยกลุ่มแรกจะอนุญาตให้เข้ามาก่อน 200 คน โดยการอนุญาตให้เข้าประเทศทุกกลุ่มจะต้องมีการดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคของไทยอย่างเคร่งครัด
นั่นยิ่งทำให้หลายคนเกิดข้อสงสัยว่า สิทธิพิเศษที่บุคคลต่างชาตินั้นๆ จะได้มากน้อยแค่ไหน หากอยากได้ในกรณีพิเศษลักษณะนี้ต้องจ่ายเงินมากเพียงใด และใครบ้างที่มีสิทธิ์นี้
"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" จะพาไปไขข้อข้องใจเกี่ยวกับ "อีลิท คาร์ด" (Elite Card) บัตรสุดหรู สำหรับเศรษฐีเปย์หนัก และพร้อมจ่ายเพื่อการพำนักในไทยอย่างเอ็กซ์คลูซีฟ
- "อีลิท คาร์ด" คืออะไร?
Thailand Elite Card เกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม 2546 เป็นโครงการของรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ดำเนินการภายใต้บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผู้ถือหุ้นเพียงหนึ่งเดียวของบริษัทฯ
ในโครงการนี้รัฐบาลจะขายบัตรอีลิท คาร์ด ให้กับชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าไทย โดยเฉพาะบุคคลที่ร่ำรวย ทั้งที่เข้ามาแบบนักธุรกิจ ผู้ประกอบการ นักลงทุน รวมถึงเข้ามาท่องเที่ยว พักผ่อนระยะยาวในประเทศไทย ในราคาตั้งแต่ราว 500,000 บาท ไปจนถึง 2,000,000 บาท
แน่นอนว่าเมื่อบุคคลเลือกซื้อบัตรประเภทต่างๆ แล้ว สิทธิประโยชน์ที่จะได้ตามมา คือ สารพัดความ "วีไอพี" เช่น สิทธิพิเศษสำหรับการเข้าเมือง การบริการที่สนามบิน สถานที่พักผ่อนต่างๆ สนามกอล์ฟ สปา โรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร โรงพยาบาล ฯลฯ
- "อีลิท คาร์ด" มีกี่ประเภท? ได้สิทธิประโยชน์แตกต่างกันแค่ไหน?
ปัจจุบันอีลิท คาร์ด มีทั้งหมด 7 ประเภท โดยมีรายละเอียดที่แตกต่างกันไปตามระดับราคา รวมถึงสิทธิพิเศษ VIP ต่างๆ ลดหลั่นตามระดับเช่นกัน ดังนี้
1. Elite Ultimate Privilege
บัตรนี้มีอายุสมาชิก 20 ปี จ่ายค่าสมัครราว 2 ล้านบาท โดยมีค่าธรรมเนียมรายปีอยู่ที่ 20,000 บาท และมีค่าธรรมเนียมการโอน 20% ของอัตราการแลกเปลี่ยน
โดยสมาชิกจะได้วีซ่าอายุ 5 ปี สามารถต่ออายุได้ ขณะเดียวกันสามารถขยายเวลาในการพำนักได้ 1 ปีต่อการดำเนินการหนึ่งครั้ง เมื่อเดินทางมาถึงและเดินทางออกจากประเทศไทย จะได้การต้อนรับและดูแลแบบ VIP มีผู้ช่วยส่วนตัว (Elite Personal Assistant) รวมถึงช่วยเรื่องดำเนินการด้านการตรวจคนเข้าเมืองแบบ Fast-Track ได้สิทธิ์ใช้บริการเลานจ์ และรถลีมูซีนจากสนามบินไปยังโรงแรมและที่พัก
รวมถึงอำนวยความสะดวกในการทำใบขับขี่ รายงานตัวอยู่ในราชอาณาจักรเกิน 90 วัน รวมถึงการเปิดบัญชีธนาคารและการทำธุรกิจในประเทศไทย
นอกจากนี้ยังมีบริการอื่นๆ กับพันธมิตรของอีลิท คาร์ด เช่น ฟรีค่าธรรมเนียมในการใช้บริการสนามกอล์ฟ 24 ครั้งต่อปี ฟรีทรีทเมนท์สปา 24 ครั้งต่อปี ตรวจสุขภาพฟรีทุกปี และได้สิทธิ์ซื้อสินค้าปลอดภาษีของคิงเพาเวอร์ และส่วนลดพิเศษของโรงแรม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า
2. Elite Superiority Extension
บัตรนี้มีอายุสมาชิก 20 ปี ค่าสมาชิกอยู่ที่ 1 ล้านบาท แต่มีเงื่อนไขไม่สามารถโอนหรือคืนเงินไม่ได้ โดยสมาชิกจะได้วีซ่าอายุ 5 ปี สามารถต่ออายุได้ ขณะเดียวกันสามารถต่อเวลาในการพำนักได้ 1 ปีต่อการดำเนินการหนึ่งครั้ง
เมื่อเดินทางมาถึงและออกจากประเทศไทย จะได้การต้อนรับและดูแลแบบ VIP มีผู้ช่วยส่วนตัวด้วย รวมถึงช่วยเรื่องดำเนินการด้านการตรวจคนเข้าเมืองและได้สิทธิ์ใช้บริการเลานจ์ทั้งขาเข้าและขาออก รวมถึงอำนวยความสะดวกในการทำใบขับขี่ รายงานตัวอยู่ในราชอาณาจักรเกิน 90 วัน รวมถึงการเปิดบัญชีธนาคารและการทำธุรกิจในประเทศไทย ขณะเดียวกันจะได้รับสิทธิอื่นๆ เช่น สิทธิประโยช์ส่วนลดซื้อสินค้าของคิงเพาเวอร์ และส่วนลดพิเศษของโรงแรม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า
3. Elite Privilege Access
บัตรนี้มีอายุความเป็นสมาชิก 10 ปี ค่าสมัครสมาชิกอยู่ที่ 1 ล้านบาท ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับเพิ่มสมาชิก ราว 800,000 บาทต่อรายการ ซึ่งบัตรนี้จะใช้ได้ตามระยะเวลาที่เหลือของสมาชิกหลักเท่านั้น แต่มีเงื่อนไขว่า ไม่สามารถถ่ายโอนหรือคืนเงินได้
โดยสมาชิกได้วีซ่าอายุ 5 ปี สามารถต่ออายุได้ ขณะเดียวกันสามารถต่อเวลาในการพำนักได้ 1 ปีต่อการดำเนินการหนึ่งครั้ง เมื่อเดินทางมาถึงและเดินทางออกจากประเทศไทย จะได้การต้อนรับและดูแลแบบ VIP และมีผู้ช่วยส่วนตัว
นอกจากนี้ช่วยเรื่องดำเนินการด้านการตรวจคนเข้าเมืองและได้สิทธิ์ใช้บริการเลานจ์ รวมถึงฟรีบริการรถลีมูซีนรับส่งสนามบินไปส่งที่พักหรือโรงแรม 18 ครั้งต่อปี ได้สิทธิ์ตรวจสุขภาพฟรีทุกปี รวมถึงอำนวยความสะดวกในการ รายงานตัวอยู่ในราชอาณาจักรเกิน 90 วัน ทำใบขับขี่ในประเทศไทย เปิดบัญชีธนาคารและทำธุรกิจ และส่วนลดพิเศษสินค้าที่คิงเพาเวอร์ สนามกอล์ฟ สปา โรงพยาบาล โรงแรม ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้า
4.Elite Easy Access
บัตรนี้มีอายุความเป็นสมาชิก 5 ปี ค่าสมาชิกอยู่ที่ 500,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ทั้งนี้สามารถอัพเกรดสมาชิกได้ ด้วยการเพิ่มเงินอีกราว 1.5 ล้านบาท แต่มีเงื่อนไข คือ ไม่สามารถโอน หรือคืนเงินได้
โดยสิ่งที่จะได้คือ สิทธิ์วีซ่าอายุ 5 ปี สามารถต่ออายุได้ รวมถึงสามารต่อเวลาในการพำนักได้ 1 ปีต่อการดำเนินการหนึ่งครั้ง ขณะเดียวกันยังได้สิทธิ์ได้รับการดูแลและต้อนรับแบบ VIP เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย รวมถึงมีผู้ช่วยส่วนตัว สิทธิพิเศษสำหรับเลานจ์ขาเข้าและขาออก รวมถึงมีรถลีมูซีนรับ-ส่ง จากสนามบินไปที่พัก 24 ครั้งต่อปี
ขณะเดียวกันได้สิทธิพิเศษดำเนินการพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแบบ Fast-Track อำนวยความสะดวกในการทำใบขับขี่ รายงานตัวอยู่ในราชอาณาจักรเกิน 90 วัน รวมถึงการเปิดบัญชีธนาคารและการทำธุรกิจในประเทศไทย อีกทั้งได้ส่วนลดพิเศษเมื่อซื้อสินค้าที่คิงเพาเวอร์ โรงแรม สถานประกอบการร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้าต่างๆ
นอกจากนี้ยังมีแพ็คเกจสำหรับการเข้ามาเป็นครอบครัว 3 รูปแบบ คือ
5. Elite Family Alternative
บัตรนี้เป็นแพ็คเกจสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเป็นครอบครัว ระยะเวลาสมาชิก 10 ปี ค่าสมัครสมาชิกอยู่ที่ 800,000 บาท และมีค่าธรรมเนียมการเพิ่มเติมสำหรับการเพิ่มสมาชิกราว 700,000 บาทต่อรายการ ซึ่งไม่สามารถถ่ายโอนหรือคืนเงินได้ ทั้งนี้ช่วงเวลาได้รับสิทธิ์ของสมาชิก จะเท่ากับระยะเวลาสิทธิ์ที่เหลืออยู่ของสมาชิกหลัก
สิ่งที่จะได้คือ สิทธิ์วีซ่าอายุ 5 ปี สามารถต่ออายุได้ รวมถึงสามารต่อเวลาในการพำนักได้ 1 ปีต่อการดำเนินการหนึ่งครั้ง สิทธิ์พิเศษที่จะได้ก็คล้ายๆ กับบัตรใบอื่น ได้แก่ ได้รับต้อนรับและช่วยเหลือแบบ VIP ได้สิทธิ์ใช้บริการเลานจ์ทั้งขาเข้าและขาออก มีผู้ช่วยส่วนตัว อำนวยความสะดวกในการทำใบขับขี่ ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง รายงานตัวอยู่ในราชอาณาจักรเกิน 90 วัน รวมถึงการเปิดบัญชีธนาคารและการทำธุรกิจในประเทศไทย และได้สิทธิ์ส่วนลดพิเศษซื้อสินค้าที่คิงเพาเวอร์ โรงแรม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า
6.Elite Family Excursion
สำหรับบัตรนี้มีการกำหนดว่าต้องมีสมาชิกอย่างน้อย 2 คน อายุความเป็นสมาชิก 5 ปี ค่าสมัครสมาชิก 800,000 บาท และหากต้องการเพิ่มสมาชิก มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมราว 300,000 บาท โดยสิทธิ์ของสมาชิกจะอื่นๆ จะมีระยะเวลาเหลือตามสมาชิกหลัก ซึ่งจะได้สิทธิ์วีซ่าอายุ 5 ปี สามารถต่ออายุได้ รวมถึงสามารถต่อเวลาในการพำนักได้ 1 ปีต่อการดำเนินการหนึ่งครั้ง
สิ่งที่จะได้คือการได้รับต้อนรับและช่วยเหลือแบบ VIP ได้สิทธิ์ใช้บริการเลานจ์ทั้งขาเข้าและขาออก มีผู้ช่วยส่วนตัว อำนวยความสะดวกในการทำใบขับขี่ ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง รายงานตัวอยู่ในราชอาณาจักรเกิน 90 วัน บริการรถลีมูซีนรับส่งสนามบินและที่พักระยะสั้น 4 ครั้งต่อปี ระยะยาว 6 ครั้งต่อปี ช่วยอำนวยความสะดวกเปิดบัญชีธนาคารและดำเนินธุรกิจ และได้สิทธิ์ส่วนลดพิเศษซื้อสินค้าที่คิงเพาเวอร์ โรงแรม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า
7. Elite Family Premium
ค่าสมัครสมาชิกราว 1 ล้านบาท ส่วนความเป็นสมาชิกนั้นขึ้นอยู่กับสมาชิกหลัก โดยสามารถโอนสมาชิกได้ 1 ครั้ง แต่ต้องเป็นสมาชิกในครอบครัวเท่านั้น ซึ่งมีค่าธรรมเนียมการโอนอยู่ที่ 20% ของอัตราแลกเปลี่ยน และมีค่าธรรมเนียมรายปี 10,000 บาท
สิทธิ์ที่ได้คือ วีซ่าอายุ 5 ปี สามารถต่ออายุได้ รวมถึงสามารต่อเวลาในการพำนักได้ 1 ปีต่อการดำเนินการหนึ่งครั้ง ได้รับต้อนรับและช่วยเหลือแบบ VIP ได้สิทธิ์ใช้บริการเลานจ์ทั้งขาเข้าและขาออก มีผู้ช่วยส่วนตัว บริการรถลีมูซีนรับส่งสนามบินและที่พัก
รวมถึงอำนวยความสะดวกผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง รายงานตัวอยู่ในราชอาณาจักรเกิน 90 วัน ทำใบขับขี่ เปิดบัญชีธนาคาร และดำเนินธุรกิจในไทย อีกทั้งได้สิทธิ์ซื้อสินค้าปลอดภาษีที่คิงเพาเวอร์ โรงแรม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และใช้บริการสนามกอล์ฟ 18 หลุม ฟรี 10 รอบต่อปี และสปาฟรี 10 ครั้งต่อปี
ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการเข้ามาในประเทศไทย จะต้องสมัครโดยใช้หลักฐานเพียง 4 อย่าง ได้แก่ สำเนาหน้าหนังสือเดินทางของผู้สมัคร รูปถ่าย แบบฟอร์มใบสมัคร และสำเนาหลักฐานที่แสดงความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัว โดยจะใช้เวลาในการพิจารณาราวๆ 1-4 เดือน
..สิทธิพิเศษ จัดเต็มขนาดนี้ ตามไปดูกันว่า บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ทำรายได้ได้เท่าไร ?
- ธุรกิจ Elite Card มีรายได้เท่าไร
ข้อมูลจากกรมธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2546 ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท แจงวัตถุประสงค์ไว้ว่าเพื่อจำหน่ายบัตรเอกสิทธิ์ Thailand Elite มีรายชื่อคณะกรรมการทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายยุทธศักดิ์ สุภสร (ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คนปัจจุบัน), นางสาวสมฤดี จิตรจง, นายวราวุธ ชูวิรัช, นายธเนศ วรศรัณย์, นายปิ่นสาย สุรัสวดี, นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ และนายบุญส่ง คุ้มบุญ
เมื่อมาดูรายละเอียดงบกำไรขาดทุนจากข้อมูลงบการเงินในปี 2560-2562 ย้อนหลัง 3 ปี พบว่า
บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด มีรายได้รวมปี 2560 อยู่ที่ 217.31 ล้านลาท ส่วนปี 2561 ไม่ระบุรายได้รวม ขณะที่ปี 2562 มีรายได้กว่า 460.73 ล้านบาท
ส่วนกำไรขาดทุนสุทธิ พบว่ากำไรอย่างต่อเนื่อง จากปี 2561 กำไร 22.92 ล้านบาท ตามมาที่ปี 2561 ที่มีกำไรเพิ่มขึ้น 215.54% หรือมีกำไรราว 72.33 ล้านบาท และล่าสุดปี 2562 ยังคงมีกำไรต่อเนื่อง เพิ่มขึ้นราว 148.13% หรือมีกำไรอยู่ที่ 179.48 ล้านบาท
สำหรับปี 2563 นี้ “สมชัย สูงสว่าง” ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งไม่นาน ได้มีการปรับโครงสร้างบริษัทใหม่ โดยมีการจัดการบริหารตัวแทนจำหน่ายบัตรอีลิท คาร์ด ที่มีอยู่ 16 ราย และมีแผนเพิ่มตัวแทนจำหน่ายในออสเตรเลีย อินเดีย และจีน นอกจากนี้ยังตั้งเป้าเพิ่มยอดขายบัตรในปีงบประมาณ 2563 ให้ได้ 2,500 บัตร รายได้ 1,500 ล้านบาท
โดยตอกย้ำเป้าหมายด้วยกลยุทธ์โฟกัสไปที่กลุ่มลูกค้าต่างชาติจาก 5 ตลาดหลัก ได้แก่ จีน หลังเห็นเทรนด์ชาวจีนสนใจมาพำนักในไทยมากขึ้น แม้ขณะนี้จะเกิดเหตุแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 รวมถึงอังกฤษ ญี่ปุ่น สหรัฐ และฝรั่งเศส รวมถึงยังมองถึงกลุ่มตลาดใหม่ๆ อย่างอินเดีย บังคลาเทศ และออสเตรเลียด้วย
ทั้งนี้พบว่าประเภทบัตรขายดีที่สุดในปัจจุบันคือ Elite Easy Access ระยะเวลา 5 ปี ราคา 500,000 บาท และน่าจะขายดีต่อเนื่องในปีงบฯ นี้ รองลงมาเป็น Elite Superiority Extension ระยะเวลา 20 ปี ราคา 1,000,000 บาท และ Elite Family Excursion ระยะเวลา 5 ปี ราคา 800,000 บาท สำหรับ 2 คน
ที่มา : datawarehouse.dbd, thailandelite, bangkokbiznews(1), bangkokbiznews.(2)