Café Kitsuné ‘ร้านกาแฟ’ แบรนด์แฟชั่นฝรั่งเศส-ญี่ปุ่น เปิดแล้วร้านแรกที่กรุงเทพฯ
เปิดไทม์ไลน์ “Café Kitsuné” (คาเฟ่ คิทสึเนะ) ร้านกาแฟของแบรนด์แฟชั่นฝรั่งเศส-ญี่ปุ่น Maison Kitsuné ล่าสุดกับการปักหมุดร้านแรกที่กรุงเทพฯ มาพร้อม “shortbread รูปสุนัขจิ้งจอก” ที่ครองใจสาวกตำนานจิ้งจอก และ 3 เครื่องดื่มซิกเนเจอร์เฉพาะเมืองไทย
นอกจากเป็นครั้งแรกที่แบรนด์แฟชั่น Maison Kitsuné (เมซง คิทสึเนะ) เดินทางมาปักหลักเปิดช็อปแรกในกรุงเทพฯ แต่ยังทำให้สาวกโลโก้สุดเท่รูป ‘สุนัขจิ้งจอก’ ชื่นมื่นกันขึ้นไปอีก เพราะเป็นการมาพร้อมกับ Café Kitsuné (คาเฟ่ คิทสึเนะ) ร้านกาแฟอารมณ์เดียวกับทิศทางแฟชั่นของแบรนด์อีกด้วย
ร้านตั้งอยู่ที่ ดิ เอ็มควอเทียร์ ชั้น G ถ้าเดินมาจากข้างในเอ็มควอเทียร์ เราจะเห็นป้ายชื่อ Maison Kitsuné ติดไว้ตรงตำแหน่งชื่อร้าน พอเดินเข้าไป พื้นที่ส่วนนี้จัดแสดงสินค้าแฟชั่นที่คนรักแบรนด์นี้เห็นแล้วใจละลาย
พอเดินลึกเข้าไปอีกหน่อย ก็จะเป็นพื้นที่ของร้านกาแฟ คาเฟ่ คิทสึเนะ ซึ่งถ้าเดินมาจาก ฮีลิกซ์ การ์เด้น (Helix Garden) หรือสวนระหว่างตึกเอ็มควอเทียร์กับตึกฮีลิกซ์ คุณก็จะเห็นป้ายชื่อ Café Kitsuné ลายเส้นแบบตัวเขียนที่คุ้นตา ขยายขนาดใหญ่ติดอยู่บนผนัง หน้าร้านมีโต๊ะ-เก้าอี้สีดำ ร่มสีครีมขนาดใหญ่ จัดวางเป็นชุดๆ บรรยากาศคลาสสิกคล้ายร้าน sidewalk café ในเมืองท่องเที่ยวแถบยุโรป
แฟน ‘เมซง คิทสึเนะ’ คงรู้จักแฟชั่นแบรนด์นี้ดีอยู่แล้ว เป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งโดย มร.จิลดาส์ โลแอ็ค (Gildas Loaëc) ชาวฝรั่งเศส และ มร.มาซายะ คุโรกิ(Masaya Kuroki) ชาวญี่ปุ่น, ใครยังไม่รู้จัก ไว้ขอเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไป, ตอนนี้ขอพามาทำความรู้จักร้านกาแฟของแบรนด์แฟชั่นที่เกิดจากการผสมผสานวัฒนธรรมสองซีกโลกกันก่อน
“นอกจากหลงใหลในเสียงดนตรี สนใจแฟชั่น สองผู้ก่อตั้งแบรนด์ ‘เมซง คิทสึเนะ’ ต่างก็ชื่นชอบการดื่มกาแฟ ชอบเปิดรับสิ่งใหม่ๆ พยายามหาธุรกิจใหม่ๆ จึงต่อยอดแบรนด์แฟชั่นมาเป็นร้านกาแฟ” คณสรณ์ วีระศักดิ์ศรี ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด Maison Kitsuné และ Café Kitsuné กล่าวถึงที่มาของร้านกาแฟ ‘คาเฟ่ คิทสึเนะ’
มร.จิลดาส์และมร.มาซายะเปิดร้านกาแฟ คาเฟ่ คิทสึเนะ ร้านแรกที่ย่านอาโอยาม่า ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปีค.ศ.2013 แปดปีหลังจากเปิดแบรนด์แฟชั่น และเปิดร้านกาแฟร้านที่สองที่สวนปาแล รัวยาล (Palais Royal)ในกรุงปารีส ในปี 2014 ถือเป็น ‘คาเฟ่ คิทสึเนะ’ ร้านแรกในฝรั่งเศส ตามมาด้วยสาขาที่ฮ่องกง เกาหลีใต้ นิวยอร์ก เซี่ยงไฮ้ และล่าสุดที่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย ซึ่งเปิดบริการแล้วเมื่อวันอังคารที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา (พ.ศ.2563)
เมื่อมองร้าน คาเฟ่ คิทสึเนะ จากสวนบริเวณด้านนอกของห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ จะพบกับ ลายไม้สีน้ำตาลวอลนัท บนผนังด้านนอกร้าน เป็นภาพที่สวยงามเมื่อทำมุมกับแสงแดดและเกิดเป็นเหลือบเงา กลมกลืนกับสีเขียวของธรรมชาติโดยรอบ
ภายในร้านตกแต่งด้วย บานไม้ฉลุ เป็นช่องหน้าต่างแบบพลิกได้สไตล์ญี่ปุ่น วัสดุทำด้วย ชานอ้อย ในแบบฉบับของไทยโมเดิร์น ล้อมรอบด้วยโซฟา และที่นั่งที่ทำจาก ไม้ไผ่ท้องถิ่นของไทย ดึงดูดให้ผู้คนต้องเข้ามานั่งจิบกาแฟหอมๆ สักแก้ว
ผนังภายในร้านบางส่วนตกแต่งด้วย ก้านไผ่เคลือบเงา ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสวนสไตล์ zen ของญี่ปุ่น รังสรรค์งานโดยช่างฝีมือของไทย ออกมาเป็นร้านที่มีบรรยากาศที่ดูผ่อนคลายและอบอุ่น
จุดเด่นของร้าน ‘คาเฟ่ คิทสึเนะ’ ในไทยขณะนี้คือ เครื่องดื่ม และ ขนม สาขาอื่นๆ ในต่างประเทศมีอาหารประเภทสลัดไปจนถึงบรันช์ แต่ไม่ว่าจะไปสาขาไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือ เครื่องดื่มกาแฟ ให้รสชาติกลมกล่อม หนักแน่น ตามมาตรฐานของแบรนด์เหมือนกันทั่วโลก
เมล็ดกาแฟของ ‘คาเฟ่ คิทสึเนะ’ เดินทางมาจากแหล่งเพาะปลูกเมล็ดกาแฟชั้นเยี่ยมอย่าง คอสตาริก้า, นิคารากัว, ซัลวาดอร์ และ กัวเตมาลา ผ่านกระบวนการคั่วบดและเบลนด์ด้วยความใส่ใจของโรงคั่วคุณภาพในประเทศญี่ปุ่น ณ เมืองโอคายาม่า ก่อนส่งออกไปยังสาขาต่างๆ ทั่วโลก..รวมทั้งกรุงเทพฯ
คาเฟ่ คิทสึเนะ มีเครื่องดื่มกาแฟมาตรฐานทั้งแบบร้อนและเย็น อาทิ เอสเพรสโซ ลาเต้ อเมริกาโน มัคคิอาโต คาปูชิโน พิคโคโล(ลาเต้แก้วเล็ก) แฟลตไวท์ และ ช็อกโกแลต
“แต่ที่ไทย มีสเปเชียลซิกเนเจอร์ดริงค์ที่ฝรั่งเศสคิดสูตรให้เฉพาะสาขาประเทศไทย 3 สูตรด้วยกัน” คณสรณ์ กล่าว
สเปเชียล ซิกเนเจอร์ ดริงค์ สูตรแรกชื่อ ฟอกซ์ ลาเต้ (Fox Latte) รังสรรค์จากเมล็ดกาแฟนิคารากัว ซัลวาดอร์ และ กัวเตมาลา คั่วและหมักกับเปลือกเมล็ดโกโก้จากสวนในจังหวัดเชียงใหม่นาน 24 ชั่วโมง แก้วนี้ให้รสชาติกาแฟที่หนักแน่น จริงจัง กลิ่นหอมนุ่มนวล อาฟเตอร์เทสต์กลิ่นช็อกโกแลตอวลอยู่ในปาก
สูตรที่สอง อูจิ ฟิซ (Uji Fizz) สร้างสรรค์จาก 3 ส่วนผสมที่เป็นวัตถุดิบขึ้นชื่อของญี่ปุ่น มัทฉะเกรด Ceremonial จากไร่ชาเขียวในเมืองอูจิ (Uji) ที่ใช้ดื่มในพิธีชงชา รสสัมผัสเข้มข้น แต่ไม่หนักจนเกินไป กลิ่นหอมอมเปรี้ยวนิดๆ ด้วยส่วนผสมของน้ำยูสึแท้จากเมืองยานากาวา (Yanagawa) และกลิ่นลูกพีชญี่ปุ่นอ่อนๆ ก่อนดื่มต้องคนส่วนผสมให้เข้ากัน ได้ชาเขียวรสเข้มข้นเจือรสเปรี้ยวนิดๆ กับกลิ่นซิตรัส ดื่มแล้วรู้สึกสบายและผ่อนคลาย
ซิกเนเจอร์ดริงค์สูตรที่สาม ลา เฟลอร์ (La Fleur) ถ่ายทอดอารมณ์สุนทรีย์ตามแบบฉบับฝรั่งเศสด้วยสปาร์คกลิ้งไวน์ (Sparkling Wine) เจือกลิ่นหอมของดอกเอลเดอร์ (Elder Flower) ชวนให้นึกถึงบรรยากาศวันสบายในสวนที่ปาแล รัวยาล เพิ่มเสน่ห์ด้วยความนุ่มนวลด้วย เฟรนช์ วานิลลา และความสดชื่นจากส้ม ตกแต่งด้วยดอกไม้กินได้สีขาวตามฤดูกาลและใบเลมอนไธม์ แก้วนี้ช่วยคลายความร้อนจากแสงแดดของกรุงเทพฯ ได้ดี
ขนมที่เป็นซิกเนเจอร์ของ ‘คาเฟ่ คิทสึเนะ’ คือ ฟอกซ์ ชอร์ตเบรด (Fox Shortbread) บิสกิตรูปหมาจิ้งจอกซึ่งเป็นโลโก้ของแบรนด์ หอมกลิ่นเนย รสชาติดี บิสกิตของชาวสก็อตต์ประเภทนี้เนื้อร่วนกว่าคุกกี้ มาถึงร้านต้องชิม ก่อนชิมต้องถ่ายรูป มุมยอดนิยมคือวาง ‘ฟอกซ์ ชอร์ตเบรด’ พิงหลอดเครื่องดื่ม ยกแก้วขึ้นแล้วหมุนหามุมที่ชอบ
ขนมในร้านยังมี ชีสเค้กญี่ปุ่น, บราวนี่, ทาร์ตมะนาว, เค้กกล้วยหอม เลือกมาชิมแกล้มเครื่องดื่มตามชอบ และยังมี ไอศกรีม อาทิ ดาร์ก ช็อกโกแลต, มัทฉะ, ชาไทย, วานิลลา, ไวด์เบอร์รี่, ยูสึ ซอร์เบต์ ให้เลือกคลายร้อน
สายแฟ..รอรีวิวอีกครั้งกับร้าน 'เมซง คิทสึเนะ'